Tel. 0800-555-555 | 0900-555-555 |

ครบ 20 ปี โรนัลดินโญฟรีคิกมหัศจรรย์ฟุตบอลโลก 2002

21 มิ.ย.2022 ในแวดวงลูกหนังยังคงเป็นวันที่ตลาดซื้อขายนักเตะมีการเคลื่อนไหวคึกคัก เพื่อเสริมความแกร่งในฤดูกาลหน้า

แต่วันเดียวกันนี้เมื่อ 20 ปีก่อน เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลก 2002 ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วม และมีหนึ่งเกมที่ถูกไว้ว่าเป็นเกมแห่งความทรงจำ เป็นการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่ ชิซุโอกะ เอโคปา สเตเดี้ยม ในชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น

เป็นการพบกันระหว่าง บราซิล ทีมแชมป์โลก 4 สมัย พบกับ อังกฤษ แชมป์โลก 1966

บราซิลนำทีมมาโดยสามประสานคือ โรนัลโด้,ริวัลโด้ และ โรนัลดินโญ

ส่วนอังกฤษก็ยังมีทั้งเดวิด เบ๊กแฮม,ไมเคิล โอเว่น และ สตีเวน เจอร์ราร์ด

ในเวลานั้น โรนัลดินโญ หรือชื่อเต็มๆ ว่า โรนัลโด้ เด แอสซิส โมเรรา เพิ่งขึ้นมาสร้างชื่อใหม่ๆ และเพิ่งย้ายจากเกรมิโอในบ้านเกิดมาอยู่กับปารีส แซงต์ แยร์กแมง ได้ประมาณหนึ่งปี

แต่เกมกับ “สิงโตคำราม” นั้น โรนัลดินโญเล่นได้ยอดเยี่ยมเหมือนกับพ่อมดลูกหนัง ร่ายมนต์สะกดแฟนบอลทั้งสนาม

โอเวนยิงให้อังกฤษขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 23  แต่ริวัลโด้ตีเสมอในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก และพอถึงนาทีที่ 50 บราซิลได้เตะฟรีคิกระยะ 42 หลาซึ่งเยื้องไปทางด้านขวา โรนัลดินโญรับหน้าที่ปั่นฟรีคิก ซึ่งจากทิศทางและระยะคาดว่าจะเป็นการเปิดบอลมากกว่ แต่ที่ไหนได้ดาวเตะแซมบ้ากลับยิงบอลย้อยข้ามหัวของเดวิด ซีแมน นายทวาร “สิงโตคำราม” ย้อยเข้าประตูไปเหลือเชื่อ

บราซิลเอาชนะอังกฤษไปด้วยประตูนั้นเอง

และโรนัลดินโญคนทำประตูชัยโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในนาทีที 57

เวิลด์ คัพ 2002 บราซิลคว้าแชมป์โลกไปครองเป็นสมัยที่ 5 และลูกยิงดับ “สิงโตคำราม” ยังถูกกล่าวขวัญถึงทุกวันนี้ว่าเป็นเพราะความยอดเยี่ยมของโรนัลดินโญหรือความเฟอะฟะของซีแมนกันแน่

“จะบอกว่าลูกนั้นมีโชคหน่อยๆ ก็คงได้” ซีแมนกล่าวถึงประตูนั้น

“ตอนนั้นไม่มีใครรู้จริงๆ หรอกว่าโรนัลดินโญเก่งแค่ไหน เราเพียงแต่ได้ยินเรื่องราวของเขามาก่อนเท่านั้น แต่ในเกมกับอังกฤษเราถืงได้เห็นว่าเขามหัศจรรย์แค่ไหน ลูกฟรีคิก 40 หลามันเหลือเชื่อจริงๆ แต่ก็นั่นแหละมันเป็นความผิดพลาดของผู้รักษาประตูคือผมด้วย และไม่จำเป็นต้องแก้ตัว” อดีตนายทวารคนดังของอาร์เซนอลกล่าว

หลังฟุตบอลโลก 2002 โรนัลดินโญกลายเป็นซูเปอร์สตาร์คนใหม่ แม้แต่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็อยากได้ตัวมาอยู่กับแมนฯยู

19 ก.ค.2003 โรนัลดินโญย้ายจากปารีส แซงต์แยร์กแมงไปอยู่กับบาร์เซโลนา และกลายเป็นผู้เล่นในตำนานของบาร์ซา คว้าบัลลงดอร์ในปี 2005 นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟาในปี 2004 และ 2005 และได้แชมป์ลา ลีกา 2 สมัย (2004-05,2005-06) และแชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก (2005-06)