ขอพาไปย้อนชมคนชูถ้วยพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ว่ามีใครหน้าไหนกันบ้าง
ไบรอัน ร็อบสัน (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 1992-1993
กัปตันมาร์เวลของปีศาจแดงเป็นคนแรกที่ได้ชูถ้วยพรีเมียร์ลีก แต่ทั้งฤดูกาลเจ้าตัวได้ลงสนามไปเพียง 14 นัดเท่านั้น
สตีฟ บรูซ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 1993-1994
ปีศาจแดงรักษาแชมป์ไว้ได้ แต่คนชูถ้วยครั้งนี้กลายมาเป็น สตีฟ บรูซ ที่ได้สวมปลอกแขนมาตรั้งแต่ฤดูกาลก่อนแล้ว จนฤดูกาลนี้ ร็อบสัน แทบไม่มีส่วนกับทีม บรูซจึงเป็นคนได้ชูถ้วยแชมป์อย่างเต็มตัว
ทิม เชอร์วู้ด (แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส) 1994-1995
แชมป์ในประวัติศาสตร์ของกุหลาบไฟโดน อลัน เชียเรอร์ ยิงกระจุยพาทีมเป็นแชมป์ได้สำเร็จ แต่เป็น ทิม เชอร์วู้ด ที่เป็นกัปตันทีมรับหน้าที่ชูถ้วยไป
สตีฟ บรูซ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 1995-1996
ไม่ใช่ตัวหลักของทีมอีกแล้ว แต่ บรูซ ที่เป็นกัปตันก็ได้ชูถ้วยให้กับทีม แถมเป็นการสั่งลาของเจ้าตัวที่ย้ายออกจากทีมหลังจบฤดูกาลอีกด้วย
เอริก คันโตน่า (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 1996-1997
ก็องโต สวมปลอกแขนต่อจาก บรูซ ชูถ้วยให้กับทีม ก่อนจะช็อกแฟนบอลทั่วโลกด้วยการประกาศแขวนสตั๊ดทั้งที่อายุพึ่งจะ 30 ปีเท่านั้น
โทนี่ อดัมส์ (อาร์เซน่อล) 1997-1998
มาถึงคราวของ ไอปืนใหญ่ ภายใต้การนำทัพของ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่มี โทนี่ อดัมส์ เป็นกัปตันทีมในตอนนั้นบ้าง ที่ได้ชูถ้วยพรีเมียร์ลีก
รอย คีน (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 1998-1999 , 1999-2000 , 2000-2001
คีน ก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันต่อจาก คันโตน่า และนี่คือฤดูกาลที่ปีศาจแดงคว้า ทริปเบิ้ลแชมป์ ได้สำเร็จ และในปี1999-2000 เป็นอีกครั้งที่ คีน ยังรักษาฟอร์มได้อย่างร้อนแรง แถมมันยังแรงจนเขาคว้ารางวัลสว่นตัวทั้ง นักเตะยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ และ นักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าว ในปี2000-2001 คีน สร้างประวัติสร้างพรีเมียรลีก ด้วยการเป็นกัปตันทีมที่ได้ชูถ้วยพรีเมียร์ลีก 3 สมัยซ้อนติดต่อกันเพียงคนเดียวมาจนถึงปัจจุบันนี้(2020)
โทนี่ อดัมส์ (อาร์เซน่อล) 2001-2002
คู่แข่งเพียง 1 เดียวของปีศาจแดงในยุคนั้น อดัมส์ พาอาร์เซน่อล คว้าดับเบิ้ลแชมป์ทั้ง พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ ก่อนอำลาทีมอย่างยิ่งใหญ่ปิดตำนาน “มิสเตอร์ อาร์เซน่อล”
รอย คีน (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 2002-2003
คีนอาจจะเจ็บและได้ลงเล่นเพียงครึ่งฤดูกาล แต่เขาก็ยังคว้าแชมป์กับทีมได้สำเร็จ และเป็นครั้งสุดท้ายที่เค้าได้ชูถ้วยแชมป์ลีกกับทีม
ปาทริค วิเอร่า (อาร์เซน่อล) 2003-2004
วิเอร่า ถูกจารึกชื่อว่าเป็นกัปตันทีมชุดแชมป์ไร้พ่ายของอาร์เซน่อลมาจนถึงทุกวันนี้
จอห์น เทอร์รี่ (เชลซี) 2004-2005 , 2005-2006
มาถึงคราวของ เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่แต่งตั้ง เจที ขึ้นมาเป็นผู้นำทีม และก็ไม่ทำให้แฟนๆสิงห์บลูส์ผิดหวัง เมื่อพวกเขาคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 50 ปี ได้สำเร็จจ
แกรี เนวิลล์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 2006-2007
หลังห่างแชมป์ลีกไป 3 ฤดูกาล เซอร์อเล็ก พาทีมกลับมาทวงแชมป์ได้สำเร็จ โดยมีกัปตันทีมครั้งนี้เป็น เนวิลล์ผู้พี่
ไรอัน กิ๊กส์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 2007-2008
แกรี เนวิลล์ ยังอยู่ แต่เจ็บข้อเท้ายาว เลยกลายเป็น ปีกพ่อมด สวมปลอกแขนรับหน้าที่ชูถ้วยแทน
แกรี เนวิลล์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 2008-2009
แชมป์ 3 สมัยติดของ ปีศาจแดง เนวิลล์ ที่ตอนนี้ไม่ได้เป็นตัวหลัก แต่ก็ยังคงเป็นกัปตันรับหน้าที่ชูถ้วยให้กับทีม
จอห์น เทอร์รี่ (เชลซี) 2009-2010
เชลซีของเสี่ยหมี กับมาทวงแชมป์สำเร็จ โดยครั้งนี้เป็นการคุมทัพของ คาร์โล อันเชลอตติ ที่ยังคงใช้ เทอร์รี่ เป็นกัปตันเหมือนเดิม
เนมานย่า วิดิช (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 2010-2011
วิดิช ก้าวขึ้นมารับปลอกแขนต่อจาก เนวิลล์ และนี่คือแชมป์ประวัติศาสตร์ของสโมสร เมื่อสามารถคว้าแชมป์ลีกได้เป็นสมัยที่ 19 แซงหน้า หงส์แดง ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ
แว็งซ็องต์ ก็องปานี (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 2011-2012
แชมป์ยังอยู่ที่แมนเชสเตอร์ แต่ครั้งนี้เปลี่ยนจากสีแดงเป็นฝั่งสีฟ้า โดยชอตที่ยังคงฝั่งอยู่ในใจของแฟนบอลทั่วโลกก็คือจังหวะที่ กุน อเกวโร่ ยิงประตูให้ทีมคว้าชัยชนะได้สำเร็จ
เนมานย่า วิดิช (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 2012-2013
แชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 13 ของทีมปีศาจแดง และนี่คือฤดูกาลสุดท้ายของป๋ากับทีม ซึ่งวินาทีนั้นไม่มีใครทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับทีมในอนาคต
แว็งซ็องต์ ก็องปานี (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 2013-2014
ก็องปานี ชูถ้วยสมัยที่สองของตนเองให้กับทีมเรือใบ แต่ดราม่าก็คือ ลิเวอร์พูล ที่เบียดแย่งแชมป์อยู่ในตอนนั้น ไปพ่ายแพ้ให้กับ เชลซี ของโชเซ่ มูรินโญ่ ที่กลับมาคุมสิงห์บลูส์อีกครั้ง
จอห์น เทอร์รี่ (เชลซี) 2014-2015
หลังตัดขาหงส์แดงฤดูกาลที่แล้ว มาคราวนี้ พวกเขาขึ้นเป็นแชมป์เองได้สำเร็จ โดยกัปตันทีมก็คือ เจที คนดีคนเดิมที่ฤดูกาลนี้ โชว์แกร่งลงเล่นให้ทีมครบทุกนาทีในลีกซะด้วย
เวส มอร์แกน (เลสเตอร์ ซิตี้) 2015-2016
จัวหวะดีไปซะทุกอย่าง เมื่อยักษ์ใหญ่แทบทุกทีมนัดกันฟอร์มหลุดฉุดไม่อยู่แบบพร้อมเพรียง จึงเป็นจิ้งจอกสยาม ที่นักเตะแทบทุกตำแหน่งโชว์ฟอร์มดีแบบพร้อมๆกัน ตั้งแต่ผู้รักษาประตูยันกองหน้า เวส มอร์แกน จึงได้ชูถ้วยแชมป์ลีกให้กับทีมไปสำเร็จ
จอห์น เทอร์รี่ (เชลซี) 2016-2017
เจที ปิดฉากกับทีมอย่างงดงาม ด้วยการคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 5 ได้สำเร็จ ถึงแม้ฤดูกาลนี้เจ้าตัวจะไม่ได้เป็นตัวหลักของทีมแล้วก็ตาม กลายเป็นนักเตะที่ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกมากที่สุดตลอดกาล
แว็งซ็องต์ ก็องปานี (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 2017-2018 ,2018-2019
เมื่อ เป็ป จูนเรือใบลำนี้เข้าที่เข้าทาง พวกเขาก็แล่นฉิวคว้าแชมป์ไปครองอย่างสบายๆ ส่ง ก็องปานี ชูถ้วยแชมป์ลีกเป็นสมัยที่ 3 ให้กับทีม และในปี 2018-2019 นำมาอยู่ดีๆสำหรับ หงส์แดง แต่พอสะดุดก็เริ่มหยุดไปซะดื้อๆ ปล่อยให้เจ้าของแชมป์เก่าอย่าง ซิตี้ แซงคว้าแชมป์ไปครองซะอย่างนั้น ส่ง ก็องปานี ชูถ้วยเป็นสมัยที่ 4 ก่อนจะอำลาทีมไปอย่างยิ่งใหญ่
**จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ลิเวอร์พูล) 2019-2020
อาจจะยังแข่งกันไม่จบ แต่ถ้ากลับมาแข่งกันต่อก็ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดสำหรับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นสมัยแรกของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล และผู้ที่จะชูถ้วยให้กับทีม ยังไงก็คงต้องเป็น เฮนโด้ ที่ครองตำแหน่งกัปตันทีมอยู่ในตอนนี้
