จากเกมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกนัดที่ 29 ของซีซั่น 2021 – 22 หลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือนเอาชนะคู่ปรับตลอดกาล ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ 3 – 2 ในบ้านของพวกเขาเอง และแน่นอนว่าในเกมนี้ คริสเตียโน โรนัลโด้ สตาร์เจ้าของเสื้อหมายเลข 7 ก็เป็นผู้ถล่มประตูทั้ง 3 ลูก และเป็นแฮตทริคครั้งที่สองของ โรนัลโด้ กับการเล่นในพรีเมียร์ลีก ซึ่งครั้งแรกเกิดขึ้นในฤดูการ 2008 และครั้งที่ 2 ก็เกิดขึ้นในเกมที่พวกเขาเอาชนะ สเปอร์ส ใน ซีซั่น 2021 – 22
และแน่นอนว่าจากชัยชนะเหนือสเปอร์ส และเป็นแฮตทริคของ โรนัลโด้ มีการบันทึกสถิติใหม่เกิดขึ้นทันที นั่นก็คือดาวซัลโวของโลกลูกหนังตลอดกาล ซึ่งลูกที่ โรนัลโด้ ยิงขึ้นนำ 1 – 0 ก็คือสถิติเทียบเท่าของ โจเซฟ บิคาน ที่เคยทำไว้ 805 ลูกและต่อมาด้วยลูกยิงลูกที่ 2 และลูกที่ 3 จบเกม โรนัลโด้ ยิงแฮตทริกทำให้สถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของวงการลูกหนังเปลี่ยนจากชื่อของ บิคาน มาเป็นของ โรนัลโด้ ด้วยสถิติทั้งหมด 807 ประตูทันที
และแน่นอนว่าจะสถิติรวมทั้งหมดทำให้ คริสเตียโน โรนัลโด้ เริ่มนับสถิติของดาวซัลโวสูงสุดที่ยิงรวมนับตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เพราะถ้าหากจะเปรียบเทียบกับ บิคาน ที่ได้ทำไว้ 805 ลูก เจ้าตัวหยุดสถิติไว้ที่ปี 1931 – 1955 แต่สำหรับ โรนัลโด้ ในวัย 37 ปี เจ้าตัวยังลงสนามและถลุงประตูภายใต้เครื่องแบบของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งสถิติรวมของ โรนัลโด้ ที่จดบันทึกเริ่มจากเกมที่ แมนยู เอาชนะ สเปอร์ส 3 – 0 แล้วเป็นแฮตทริกของ โรนัลโด้ ซึ่งก่อนหน้านี้ คริสเตียโน โรนัลโด้ ทำประตูไว้กับ เรอัล มาดริด 450 ประตู กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 136 ประตู กับทีมชาติโปรตุเกส 115 ประตู และสโมสรยูเวนตุส 101 ประตู และสโมสรเริ่มต้นอาชีพอย่าง สปอร์ติง ลิสบอน อีก 5 ประตู ซึ่งสถิติรวมทั้งหมด 807 ประตูของ คริสเตียโน โรนัลโด้ ทำให้เจ้าตัวเป็นผู้เล่นคนเดียวในประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังฟุตบอลที่ทำได้มากกว่า 100 ประตู กับ 4 ทีมของ 4 ลีกใหญ่ในแวดวงลูกหนังยุโรป
และสำหรับสถิติที่เกิดขึ้นของ โรนัลโด้ แน่นอนว่านี่คือการเริ่มจดบันทึกของ โรนัลโด้ ซึ่งเจ้าตัวมีโอกาสที่จะทำสถิติเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะในปัจจุบันนี้ ถึงแม้ คริสเตียโน โรนัลโด้ จะอยู่ในวัย 37 ปี แล้วก็ตาม แต่เรื่องศักยภาพและเรื่องของฝีเท้าที่เจ้าตัวยังคงเป็นเครื่องจักรสังหารของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่อันตรายที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่ในระดับสโมสรหรือทีมชาติ และ โรนัลโด้ ยังเป็นเครื่องจักรผลิตสกอร์ที่แฟนบอลทั่วโลกให้การยอมรับ และสถิติก็พร้อมที่จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกว่าที่ โรนัลโด้ จะแขวนสตั๊ด