เมื่อ 2 ปี ก่อน มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ สร้างชื่อดังสนั่นวงการลูกหนังกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และแน่นอนเขาตกเป็นเป้าหมายเสริมทัพของบรรดายักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป ทั้ง บาร์เซโลน่า PSG แมนฯยู ลิเวอร์พูล แมนฯซิตี้ เชลซี และ ยูเวนตุส แต่สุดท้ายก็กลายเป็นทัพม้าลายที่ยอมทุ่มค่าเหนื่อยมหาศาล ล่าตัวไปร่วมทีมได้ ซึ่งความคาดหวังจากแฟนบอลหลายคน ต่างคิดว่าเขาจะเทียบชั้นกับกองหลังตำนานร่วมชาติอย่าง ยาป สตัม หรือ เวอร์จิล ฟาน ไดค์
แต่ความจริงแล้วหลังจากที่เขาย้ายมาอยู่กับยูเวนตุส ต้องผ่านบททดสอบมากมาย กว่าจะกลายมาเป็นหนึ่งในแนวรับตัวหลักของทีมได้ ในช่วงแรกๆ เดอ ลิกต์ เล่นผิดพลาดจากจังหวะง่ายๆ รวมถึงโอกาสลงสนามที่น้อยเกินไป ส่งผลให้ดูเหมือนว่าเขาจะเล่นกับทีมได้ไม่ดี และโดนวิจารณ์อย่างหนักถึงฟอร์มการเล่น ซึ่งก็นับว่าโชคดีที่หัวจิตหัวใจของ เดอ ลิกต์ นั้นเข้มแข็ง ไม่ยอมแพ้ต่อเสียงวิจารณ์แง่ลบต่างๆ เขาสู้สุดใจ ตั้งใจฝึกซ้อม จนกระทั่งไวรัสโควิด-19 ลุกลามไปทั่วโลก และจากนั้นเขาก็ก้าวขึ้นมาแย่งตำแหน่งเซ็นเตอร์ตัวจริงของทัพม้าลายได้ จากผลงานอันยอดเยี่ยมในสนามซ้อม
ซึ่งก็ต้องยกความดีความชอบให้นายใหญ่ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่ประคบประหงม และให้โอกาสแนวรับทีมชาติฮอลแลนด์อยู่เสมอ
ในตอนี้ที่ เมริ เดมิรัลด์ เจ็บ และ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ สภาพร่างกายไม่ฟิตเหมือนก่อน แน่นอนโอกาสของ เดอ ลิกต์ เปิดกว้าง
แม้ว่าเขาอาจจะเคยเป็นกัปตันของ อาแจ็กซ์ แต่ในสีเสื้อยูเว่ เขาเป็นเพียงแค่เด็ดน้อยที่ด้อยประสบการณ์ และต้องเรียนรู้จากศาสตร์ลูกหนังจากเหล่าสตาร์ดัง อย่าง โรนัลโด้, คิเอลลินี่, ปานิช และ บุฟฟ่อน
และสิ่งสำคัญที่ช่วย เดอ ลิกต์ อย่างมาก คือรุ่นพี่เหล่านั้นต่างเชื่อมั่นว่า เดอ ลิกต์ มีศักยภาพที่ดีพอ จะเป็นกำลังสำคัญของทีม จากฟอร์มที่เคยแสดงให้เห็นในตอนที่อยู่กับ อาแจ็กซ์
ทัพม้าลายเคยเสียแค่ 2 ประตู จาก 6 เกมลีก และด้วยฟอร์มของ เดอ ลิกต์ ในซีซั่นนี้ แน่นอนว่ามีดีที่จะช่วยให้ยูเวนตุส สามารถคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ มาครองได้
และต่อจากนี้ชื่อของ เดอ ลิกต์ จะเป็นแนวรับคนสำคัญที่ทัพม้าลายขาดไม่ได้ไปแล้ว