ถือว่าเป็นการดิลนักเตะที่ยาวนานเช่นเดียวกัน หลังจากที่สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแห่งเวที พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่พวกเขาให้ความสนใจ เจดอน ซานโช สตาร์วัย 20 ปีของ “ เสือเหลือง ” โบรุสเซียดอร์ทมุนด์ มาตั้งแต่เมื่อซัมเมอร์ปีที่ผ่านมา แต่ติดอยู่ตรงที่ว่า แมนเชสเตอร์ คงไม่มีเงินมากพอที่จะไปคว้า ชานโซ มาร่วมถิ่น โอลแทรฟฟอร์ด ได้เนื่องจากสถานการณ์ของสโมสรในเวทีลูกหนังยุโรปต่างได้รับผลกระทบจากเชื้อโควิค 19 ที่แพร่ระบาดอย่างหนัก และถึงแม้ว่าตอนนั้น สถานการณ์ยังปกติทางต้นสังกัด “ เสือเหลือง ” ก็คงอยังตั้งราคา ซานโช ไว้สูงลิ่วเช่นเดิม
ซานโช ได้มีข่าวกับหลายทีมเป็นเมื่อปีฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าความกระตือรือร้นของ ปีศาจแดง จะมีความต้องการ ซานโช เข้ามาร่วมทัพ ผีแดง เป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเขาก็พยายามเจรจามาโดยตลอด แต่ดูเหมือนว่าผลงานของซานโช ที่ทำให้กับ “ เสือเหลือง ” เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา จะยกระดับค่าตัวของ ซานโช ขึ้นมาสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งก็คงจะตามผลงานที่ ซานโช ได้ยิงประตูได้อย่างถล่มทลายในลีกเมืองเบียร์ และหลังจากที่ เสือเหลือง ได้ปักป้ายราคาค่าตัวของ ซานโช ไว้ถึง 120 ล้านยูโร ( 4,200 ล้านบาท ) เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา จึงทำให้ แมนยู น ล้มโต๊ะเจรจาการคว้าตัว ซานโช มาร่วมถิ่น โรงละครแห่งความฝัน ทันที
แต่สำหรับฤดูกาลนี้ ก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ หรือว่าฟอร์มของ ซานโช ตกลงมาแต่อย่างใด ซึ่งนับตั้งแต่ที่เปิดฤดูกาลของ บุนเดสลีกา ซานโช ยังไม่สามารถยิงประตูให้กับ “ เสือเหลือง ” ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว ถึงแม้ว่าฟอร์มการเล่นของ ซานโช จะอยู่ในระดับที่คงเส้นคงวา แต่สำหรับต้นสังกัด เสือเหลือง คงต้องการที่จะให้ ซานโช ลงทำประตูให้กับทีมมากกว่า และโอกาสที่เขาจะย้ายออกจากทีม โบรุสเซียดอร์ทมุนด์ ในซัมเมอร์หน้าก็มีโอกาสเป็นไปได้สูง หลังจากที่เป็นวิถีของนักเตะระดับ ซุปเปอร์สตาร์อยู่แล้ว ถ้าหากว่าพวกเขาไม่สามารถทำผลงานให้กับทีมได้ โอกาสที่จะย้ายไปสร้างผลงานกับที่อื่นก็มีสูงเช่นเดียวกัน และ ซานโช ก็เป็นเป้าหมายที่ชัดเจนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ให้ความสนใจในตัวเขา
และสิ่งที่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนกับผลงานของ ซานโช ในตอนนี้ นั่นก็คือค่าตัวของเขาจะต้องปรับลดลงมาเกือบครึ่งแน่นอน หลังจากที่ผลงานของ ซานโช ที่เล่นในลีกเมืองเบียร์ค่อนข้างที่จะไม่หวือหวาเหมือนฤดูกาลที่ผ่านมา ด้วยสาเหตุนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงเตรียมงบประมาณที่จะไปสอย ซานโช ในช่วงซัมเมอร์หน้า และเป็นไปได้ว่า แมนยู ฯ คงจะใช้แผนเดิมนั่นก็คือการเดินทางเข้าไปในช่วงสุดท้าย เพื่อทุ่มงบประมาณที่พวกเขาเห็นว่าสมเหตุสมผล