Tel. 0800-555-555 | 0900-555-555 |

ตำนานแข้งทองค่าตัวแพงแต่ถูกปล่อยยืมตัว

Philippe Coutinho มิดฟิลด์เลือดแซมบ้าได้กลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง โดยเซ็นสัญญามาร่วมทีม Aston Villa ด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือน และจะได้ร่วมงานกับ Steven Gerrard อีกครั้งหลังจากเคยเล่นเคียงข้างกันในทีม Liverpool แต่การมาร่วมงานครั้งใหม่นี้ มิดฟิลด์แซมบ้าจะเป็นลูกทีมและ Gerrard เป็นผู้จัดการทีม แต่ก็น่าจะเป็นการจับคู่ที่น่าสนใจอยู่ดี และหากโชว์ฟอร์มได้ดีก็อาจจะได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการอีกด้วย

และครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สองที่ Coutinho ถูกยืมตัวไปเล่นให้สโมสรอื่น โดยก่อนหน้านี้ Barcelona ปล่อยให้ Bayern Munich ยืมตัวไปเล่น

ค่าตัวของมิดฟิลด์วัย 29 ตอนย้ายจาก Liverpool ไปอยู่กับ Barcelona เมื่อปี 2018 คือ 142 ล้านปอนด์

แต่เขาไม่ได้เป็นนักเตะค่าตัวแพงคนแรกที่ถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัว

ลองดูสิมีใครกันบ้าง

Danny Drinkwater (35 ล้านปอนด์)

หลังจากประสบความสำเร็จสูงสุดกับ Leicester City แล้ว Chelsea คว้าตัว Drinkwater ไปร่วมทีมด้วยค่าตัวถึง 85 ล้านปอนด์ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้จนต้องปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวไปเล่นไม่ว่าจะเป็น Burnley, Villa และ Reading

Fernando Torres (50 ล้านปอนด์)

กองหน้าชาวสเปนย้ายจาก Atlético Madrid มาอยู่กับ “หงส์แดง” เมื่อปี 2007 และลงเล่นทั้งหมด 142 นัดยิงได้ 81 ประตู แต่หลังจากนั้นก็ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บก่อนจะย้ายไปอยู่กับ Chelsea ในปี 2001 ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ แต่ก็ไม่สามารถเล่นได้ท็อปฟอร์มอีกเลย และต้องถูกปล่อยให้ AC Milan และ FC Porto ยืมตัวไปเล่น ปัจจุบันแขวนสตั๊ดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทำงานเป็นผู้จัดการทีม Atlético Madrid ชุดเบ

Radamel Falcao (51 ล้านปอนด์)

กองหน้าทีมชาติโคลอมเบียเริ่มโด่งดังเมื่อเล่นให้ FC Porto ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ Atlético Madrid และสร้างความฮือฮาเมื่อ Monaco คว้าตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวถึง 51 ล้านปอนด์เมื่อกลางปี 2013 แต่หลังจากนั้นก็มีฟอร์มการเล่นที่ไม่แน่นอนเพราะปัญหาอาการบาดเจ็บ ถูกปล่อยให้  Manchester United และ  Chelsea ยืมตัวไปเล่นแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ในที่สุด Falcao ย้ายกลับมา Monaco อีก 3 ฤดูกาลยิงไปได้อีกกว่า 70 ประตูก่อนจะย้ายไป Galatasaray และ Rayo Vallecano

Zlatan Ibrahimovic (57ล้านปอนด์)

หากพูดถึงนักเตะจอมพเนจรไม่มีใครมีชื่อเสียงเกินกว่า Zlatan Ibrahimovic อย่างแน่นอน เขาเริ่มโด่งดังกับ Ajax Amsterdam จากนั้นจึงย้ายไปเล่นในกัลโช เซเรียอา กับ Juventus และ  Inter ก่อนจะสร้างความฮือฮาเมื่อย้ายไปร่วมทีม Barcelona ด้วยค่าตัว 57 ล้านปอนด์ แต่จ่ายค่าตัวเพียง 46 ล้านปอนด์พ่วงกับการปล่อยให้ Samuel Eto’o ไปให้ทีม “งูใหญ่” ด้วย แต่ดาวยิงชาวสวีดิชก็เล่นในลา ลีกาได้เพียงแค่ฤดูกาลเดียว ลงเล่น 29 นัดยิงไป 16 ประตูจากนั้นถูกปล่อยตัวให้ AC Milan ยืมตัวไปเล่นก่อนที่ “ปีศาจแดงดำ” จะซื้อขาดในเวลาต่อมา หลังจาก  Ibrahimovic ย้ายไปอีกหลายสโมสรไม่ว่าจะเป็น PSG, Man Utd และ LA Galaxy และปัจจุบันเล่นให้กับ AC Milan

James Rodriguez (63 ล้านปอนด์)

เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติโคลอมเบียถูกทีม Real Madrid ซื้อตัวไปเล่นเมื่อกลางปี 2014 ด้วยค่าตัวถึง 60 ล้านปอนด์ แต่เล่นกับ “ราชันชุดขาว” ไปได้แค่สองฤดูกาลก็ถูกปล่อยให้  Bayern ยืมตัวไปเล่นสองปี และเมื่อหมดสัญญาก็ถูกปล่อยกลับมา ก่อนที่ Real Madrid จะตัดสินใจขายให้กับ Everton เมื่อปี 2019 ปัจจุบันย้ายไปเล่นอยู่ในลีก กาตาร์ กับทีม อัล เรย์ยาน

Gareth Bale (85 ล้านปอนด์)

กองหน้าทีมชาติเวลส์ถูกทีม “ราชันชุดขาว” คว้าตัวมาจาก Spurs ด้วยค่าตัว 85 ล้านปอนด์ด้วยการเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกเมื่อปี 2013 มีผลงานลงเล่นรวม 7 ฤดูกาล ยิงไปได้ทั้งหมด 105 ประตู ได้แชมป์ยูฟา แชมเปียส์ลีก 4 สมัย แต่ระยะหลังก็มีปัญหาทั้งเรื่องอาการบาดเจ็บและการขาดวินัยทำให้ปล่อยให้ Spurs อดีตต้นสังกัดเก่ายืมตัวไปเล่นในฤดูกาลก่อน และตอนนี้สัญญาของ Bale กับ Real Madrid กำลังจะหมดลงและจะเป็นนักเตะฟรี เอเยนต์ในสิ้นสุดฤดูกาลนี้

Philippe Coutinho (142ล้านปอนด์)

ตอนที่ Barcelona คว้าตัว Coutinho ก็ด้วยหวังจะมาแทนที่ Neymar แต่ผลงานกับไม่เป็นที่น่าประทับใจนัก มีผลงานลงเล่น 75 เกมยิงได้ 21 ประตูกับอีก 11 แอสซิสต์ ก่อนจะถูกปล่อยตัวให้ “เสือใต้” ยืมตัวไปเล่น โดยลงเตะ 38 นัด ยิงได้ 11 ประตูกับอีก 9 แอสซิสต์ ช่วยให้ทีมได้แชมป์บุนเดสลีกา 1 สมัย และแชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีกอีก 1 สมัย Coutinho กลับมาอยู่กับ “เสือใต้” อีกครั้งเมื่อต้นฤดูกาลแต่ก็ไม่อยูในแผนการสร้างทีมของ Xavi กุนซือใหม่และตัดสินใจให้ Aston Villa ยืมตัว 6 เดือน และคาดว่าไม่น่าจะได้กลับสู่สเปนอีก