เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ คือดาวยิงอนาคตไกลที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้ จากผลงานการคว้ารางวัลโกลเด้นบอยหรือนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงประจำปี ทำให้เขาถูกจับตามองและคาดหมายว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่พาทีมชาตินอร์เวย์กลับไปเล่นฟุตบอลโลกอีกครั้ง หลังจากลงเล่นครั้งสุดท้ายในฟร็องค์ปี 98
ฮาลันด์เกิดเมื่อวันที่ 21 กรกฏาคม ปี 2000 ที่เมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งในสมัยนั้นพ่อของเขา อัลฟ์ อิงเก้ ฮาลันด์ อดีตกองหลังทีมชาตินอร์เวย์ มาค้าแข้งกับ ลีดส์ ยูไนเต็ดและ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขาใช้เวลาอยู่ในอังกฤษ 3 ปีก่อนจะย้ายกลับนอร์เวย์ เนื่องจากคุณพ่อของเขาได้รับอาการบาดเจ็บอย่างหนัก จากกรณีที่รอยคีนยันโหดใส่ในเกมพรีเมียร์ลีก
เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับสโมสรอย่าง เอฟ เค เบิร์น สโมสรในลีกนอร์เวย์ ในปี 2015 ก่อนจะย้ายมายัง โมลด์ สโมสรยักษ์ใหญ่ในนอร์เวย์ในปี 201x โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ลงสนามให้กับทีมทั้งสิ้น 50 นัดซัดไป 20 ประตูและทำอีก 6 แอสซิสต์
ซึ่งจากการเล่นที่ยอดเยี่ยมนี้ เร้ดบูล ซัลบวร์ก สโมสรยักษ์ใหญ่ในประเทศออสเตรียก็ได้ยื่นข้อเสนอมูลค่า 8 ล้านยูโร(ประมาณ 290 ล้านบาท) คว้าตัวไปร่วมเขาไปร่วมทีม
บุคลิกความเป็นมืออาชีพที่ถูกปลูกฝังมาจากผู้เป็นพ่อ และดาวเตะในดวงใจของฮาลันด์ก็คือ คริสเตียโน โรนัลโด้ ซึ่งส่งผลให้เขาฝึกซ้อมอย่างหนักและมักจะใช้เวลาหลังการซ้อมเสร็จสิ้นอยู่ในโรงยิมเสียเป็นส่วนใหญ่เฉกเช่นที่ซีอาร์เซเว่นทำ ทำให้เขามีรูปร่างสูงใหญ่ เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ สามารถเข้าปะทะกับกองหลังได้อย่างดี อีกทั้งยังมีวิญญาณเพชรฆาตหน้าปากประตู
เขาลงเล่นในออสเตรียบุนเดสลีกาได้อย่างสบายๆ ประเดิมสนามให้กับทีมในเกมที่แพ้ ออสเตรีย เวียนนา 0-2 ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2019 ก่อนที่หลังจากนั้นเป็นต้นมา เขาก็เริ่มถล่มประตูคู่แข่งได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ซีซั่นนั้นเขาลงเล่นในลีก 14
นัดยิงได้ 16 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์ ยิ่งไปกว่านั้นในศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกส์ เขาลงสนามให้กับทีม 6 นัดซัดไป 8 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ ซึ่งจากฟอร์มการเล่นในถ้วยสโมสรยุโรป ดูเหมือนประเทศออสเตรียจะเล็กเกินไปสำหรับเขาเสียแล้ว
จุดเปลี่ยนสำคัญอย่างหนึ่งของเขาคือ การที่มิโน่ ไรโอลา เอเยนต์ชื่อดังได้เข้ามาดูแลสิทธิประโยชน์ส่วนตัวของเขา ไรโอลามีสายสัมพันธ์มากมายกับหลายสโมสร ซึ่งก็เคยมีข่าวออกมาว่า ฮาลันด์ ได้รับการติดต่อจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ทุกอย่างก็ไม่เกิดขึ้น และต่อมาวันที่ 1 มกราคม 2020 สโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ประกาศผ่านเว็ปไซต์ของสโมสรคว้าตัวเขามาร่วมทีมด้วยสนนราคา 20 ล้านยูโร(ประมาณ 725 ล้านบาท)
ลงประเดิมสนามในวันที่ 18 มกราคมพบกับ เอาส์บวร์ก เจ้าตัวใช้เวลาแค่ 23 นาทีทำแฮตทริกพาทีมพลิกแซงชนะ 5-3 ในฤดูกาล 2019/20 เขายิงให้เสือเหลือง 16 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์จากการลงสนาม 18 นัดรวมทุกรายการ แต่ถ้ามารวมกับครึ่งฤดูกาลที่เล่นในออสเตรีย เขายิงประตูได้ถึง 54 ประตูภายในหนึ่งปี ซึ่งจากผลงานที่ยอดเยี่ยมนี้ เขาได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล และเป็นนักเตะชาวนอร์เวย์คนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้ารางวัลนี้มาครองด้วยวัย 20 ปี
กับทีมชาตินอร์เวย์ เขาลงเล่นให้กับทีมตั้งแต่ชุด U-15 ไล่มาจนถึงชุด U-21 ก่อนจะได้ประเดิมสนามให้กับทีมชาติชุดใหญ่ในวันที่ 5 กันยายน ปี2019 ในเกมที่พบกับ มอลต้า ก่อนจะมาประเดิม 2 ประตูได้ในเกมที่พบกับ ไอร์แลนด์เหนือ วันที่ 7 กันยายน ปัจจุบันเขาลงสนามในนามทีมชาติไปแล้วทั้งสิ้น 7 นัดซัดไป 6 ประตู โดยในฤดูกาลปัจจุบันกับดอร์ทมุนด์เขาลงเล่นไปแล้ว 8 นัดซัดไป 10 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ พาทีมรั้งอันดับที่ 3 ของบุนเดสลีกา