ยังคงความขลังเช่นเดิมสำหรับ ซานติอาโก เบอร์นาเบว รังเหย้าของ เรอัล มาดริด ที่เสียงเชียร์และมนต์ขลังของสนามยังคงผลักดันให้สโมสรของพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกมล่าสุดที่ควรจะจดจำกับ เรอัล มาดริด ที่เปิดบ้านต้อนรับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอดทีมแห่งลีกน้ำหอมในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีค เกมที่ 2 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ซึ่งงานนี้ เรอัล มาดริด เจ้าบ้านค่อนข้างที่จะเสียเปรียบ หลังจากที่เกมแรกแพ้ในบ้านของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1 – 0 จึงทำให้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เล่นง่ายในเกมนี้ และพร้อมที่จะกดดันเจ้าบ้าน มาดริด เพราะพวกเขาขนซุปเปอร์สตาร์เต็มทีมเพื่อมาเยือนยอดทีมแห่งลีกกระทิง
และตามสถานการณ์แล้ว ก็คงไม่ไกลเกินฝันสำหรับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่พวกเขาจะทะลุเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ถ้าหากว่า ปารีส ลุ้นเพียงแค่ผลเสมอในนัดนี้ได้ ซึ่ง คิลิยัน เอ็มบัปเป ก็ตอกย้ำศักยภาพของวัยรุ่นเมืองน้ำหอม หลังจากที่ยิงหักข้อเข้าไปอย่างสวยงามในนาทีที่ 39 ทำให้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง กุมความได้เปรียบ เรอัล มาดริด สกอร์รวม 2 – 0 และพวกเขาก็เล่นได้อย่างเหนือชั้นตลอดระยะเวลาครึ่งแรก
แต่ทว่าเริ่มเข้าสู่ครึ่งหลัง มนต์ขลังของ เบอร์นาเบว ก็ผลักดันให้นักเตะ เรอัล มาดริด กลับมามีแรงฮึดอีกครั้ง โดยเฉพาะ คาริม เบนเซมา กองหน้าที่เป็นทุกอย่างให้กับ เรอัล มาดริด ที่ยิงเปิดฉากให้กับทีมได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 61 ซึ่งหากจะพูดถึงลูกที่ เบนเซมา วิ่งเข้าไปกดดัน ดอนนารุมมา ผู้รักษาประตูของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จนออกบอลพลาดก่อนที่ วินิซิอุส จะประเคนใส่พานให้ เบนเซมา ยิงเข้าไปตุงตาข่าย ก็คงต้องยกความดีความชอบให้กับ เบนเซมา ที่วิ่งไล่กดดันจน ดอนนารุมมา ออกบอลพลาดในจังหวะนั้น
และ เบนเซมา เจ้าเดิมก็ไม่พลาดกับโอกาส พร้อมกับบารมีและแรงฮึกเฮิมที่เจ้าตัวมีในเกมนี้ และในนาทีที่ 76 และ 78 เบนเซมา ใช้เวลาเพียงแค่ 2 นาทีส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย ปารีส แซงต์ แชร์กแมง นั่นจึงทำให้ เบนเซมา กดแฮตทริกกับเกมในนัดนี้ทันที และแน่นอนว่านี่คือ เบนเซมา กองหน้าของ เรอัล มาดริด ในวัย 34 ปี ที่ยังเป็นเครื่องจักรสังหาร และผลิตสกอร์ให้กับทีมไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม
จากผลสกอร์รวม 2 นัดที่ เรอัล มาดริด มี 3 ประตู และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มี 2 ประตู ทำให้ ปารีส ร่วงตกรอบ 16 ทีม ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ซีซั่นนี้ทันที และแน่นอนว่านี่คือการตกงานของ ปอเช็ตติโน กุนซือของ ปารีส (อย่างไม่เป็นทางการ) เพราะดูจากสีหน้าของเจ้าของทีม “นาสเซอร์ อัล เคไลฟี” ไม่พอใจกับผลงานของ “พอร์ช” แน่นอน และอีก 1 เรื่องที่น่าจับตามองนั่นก็คือ 3 ประสานของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไม่ว่าจะเป็น เนย์มาร์, เมสซี, เอ็มบัปเป พวกเขาไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะเจาะแผงหลังของ เรอัล มาดริด ในเกมนี้
และหลังจากจบเกมการแข่งขัน ยังมีข่าวฉาวอีกหนึ่งเรื่องราว ที่รอคลิปวีดีโอออกมายืนยันอย่างแน่ชัด หลังจากที่ นาสเซอร์ อัล เคไลฟี เจ้าของทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง เข้าไปโวยวายถึงห้องพักผู้ตัดสิน จนถึงขั้นทำร้ายข้าวของเสียหาย แน่นอนว่า นาสเซอร์ อัล เคไลฟี ประธานสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไม่พอใจกับผลตัดสินลูกที่ เบนเซมา วิ่งเข้าไปกดดัน ดอนนารุมมา เพราะเขามองว่าควรที่จะเป็นลูกฟาวล์ และนั่นคือหายนะเริ่มต้นที่ เบนเซมา กดดันจนทำให้ผู้รักษาประตูของ ปารีส ออกบอลพลาด
และนอกจากชัยชนะของ เรอัล มาดริด กับสถานการณ์ ปารีส ในเกมนี้ เสียงเชียร์เสียงเฮต่อไปของ ราชันชุดขาว ก็คงจะเป็นอนาคตกองหน้าป้ายแดงของทีมอย่าง เอ็มบัปเป ที่สื่อทั่วโลกได้ติดตามสถานการณ์กับอนาคตของ เอ็มบัปเป หลังจากที่เจ้าตัวเล่นภายใต้สัญญาปีสุดท้ายของ ปารีส
ซึ่งหนึ่งในเงื่อนไขการตัดสินใจของ เอ็มบัปเป ก็คือการคว้าแชมป์กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง กับถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ซึ่งถ้าหากพวกเขาการันตีถ้วยใบใหญ่ได้ แน่นอนว่าลายเซ็นของ เอ็มบัปเป อยู่กับ ปารีส ต่อแน่นอน
แต่ทีมที่พวกเขาแพ้ให้กับ เรอัล มาดริด และเป็นทีมที่จ้องจะฉกตัว เอ็มบัปเป นั่นจึงทำให้อนาคตของกองหน้าจากเมืองน้ำหอม เตรียมตัวที่จะย้ายเข้าสู่ เบอร์นาเบว ก็มีสูง