การได้แชมป์ เอฟเอคัพ ของ อาร์เซน่อล ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย แต่หากมองกันที่ระยะเวลาที่ มิเกล อาร์เตต้า เข้ามาคุมทีมต้องถือว่าเป็นเรื่องน่าทึ่ง
อดีตมิดฟิลด์และกัปตันทีมปืนใหญ่กลับสู่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีมเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้วนี้เอง และใช้เวลาแค่ 7 เดือนในการคว้าแชมป์แรกให้สโมสร ก่อนหน้า อาร์เตต้า ก็เป็น จอร์จ เกรแฮม ที่คว้าแชมป์เอฟเอคัพให้ อาร์เซน่อล ทั้งในฐานะนักเตะและผู้จัดการทีม แต่ต่างกันตรงที่แชมป์ที่ บิ๊กจอร์จ คว้ามาได้เป็นแค่ลีกคัพเท่านั้นเมื่อปี 1987 ซึ่งก็เป็นปีแรกที่เขาเข้าไปคุมทีม ทว่าระยะเวลาของ อาร์เตต้า ก็ยังสั้นกว่าอยู่ดี
อาร์เตต้า ยอมรับว่าการได้แชมป์ในฐานะผู้จัดการทีมให้ความรู้สึกที่ดีกว่า เพราะตัวเองเป็นคนที่ต้องบริหารจัดการทุกอย่าง แล้วเมื่อได้เห็นความร่วมมือของทุกคนย่อมรู้สึกได้ว่านี่คือการสร้างของเรา คนที่ได้เป็น แมนออฟเดอะแม็ตช์ แบบไม่ต้องสงสัยเลยก็คือ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ศูนย์หน้ากาบองที่ฟอร์มกลับมาสุดยอดในวัย 31 ปี
เขาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในระดับสูงสุดแบบนี้มาแล้วในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยิงไป 2 ประตูเช่นกัน กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 5 ที่ยิงประตูระดับสโมสรในเวมบลีย์ได้ 2 ประตูขึ้นไปมากกว่าหนึ่งเกม 4 คนก่อนหน้านี้ที่ ยิง 2+ ประตูที่ เวมบลีย์ มากกว่าหนึ่งเกมก็คือ เอียน ไรท์, ไบรอัน ร็อบสัน, เอียน รัช และ เอริค คันโตน่า แต่ยิ่ง โอบาเมยอง ทำได้ดีเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้แฟนบอลปืนใหญ่หวั่นใจมากยิ่งขึ้น เพราะเท่ากับว่าเขาได้ลงประกาศโฆษณาตัวเองว่ามีสรรพคุณขนาดไหนในการแก้ปัญหายิงประตูให้กับทีมที่สนใจ
ตกลงว่าเขาจะยังอยู่กับทีมต่อไปหรือเปล่า? นี่คือเรื่องที่แฟนปืนใหญ่หวั่นใจอย่างที่สุด เพราะหาก โอบาเมยอง ไม่ต่อสัญญาก็เท่ากับบีบให้ อาร์เซน่อล ต้องขายเขา แทนที่จะเก็บไว้ใช้งานอีกปีแล้วเสียไปแบบฟรีๆ
นักเตะที่เหลือสัญญาแค่ปีเดียวจะมีราคาซักเท่าไหร่ อาร์เซน่อล อาจเรียกค่าตัว โอบาเมยอง ได้ซัก 30 ล้านปอนด์ แต่ใครจะมั่นใจได้ว่าเงินที่ได้มานั้นจะสามารถไปหาซื้อศูนย์หน้าระดับนี้ได้ที่ไหน แล้วก็ไม่มีหลักประกันอะไรด้วยว่าถ้ามาแล้วจะประสบความสำเร็จ หรือจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวนานแค่ไหน
ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ สแตน โครเอนเก้ อาจจะเก็บค่าตัวของ โอบาเมยอง เข้าเป็นกองกลางเพื่อเอาไปดูแลทีมกีฬาอื่นๆ ของเขา โดยเฉพาะที่อเมริกา แบบนั้นก็เท่ากับว่าอยู่ๆ ศูนย์หน้ากาบองคนนี้ก็หายไปจากทีมดื้อๆ โดยไม่มีตัวแทน
อาร์เตต้า ยังคงเชื่อว่า โอบาเมยอง จะอยู่กับทีมต่อไป เขากล่าวว่า
“เขารู้ว่าผมมองเขาอย่างไร ผมต้องการสร้างทีมโดยมีเขาเป็นศูนย์กลาง เป็นตัวหลักที่จะกำหนดแนวทางการเล่น ตอนนี้เราก็แค่ตกลงเรื่องสัญญากันให้ลงตัวเท่านั้น”
“ผมเชื่อว่าช่วงเวลาแบบนี้จะช่วยให้เขาได้ตระหนักว่าเขาสามารถประสบความสำเร็จกับทีมนี้ได้ เขาเป็นที่รักของทุกคน และผมหวังว่าเขาจะอยู่กับเราต่อไป”
แต่อย่างไรก็ตาม จากที่เคยมีข่าวว่า บาร์เซโลน่า เคยเล็ง โอบาเมยอง เอาไว้นานแล้ว และยังอยากดึง เนย์มาร์ กับ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ของ อินเตอร์ มิลาน มาร่วมทีม รายงานล่าสุดบอกว่า บาร์ซ่า เลิกสนทั้งสองคนนั้นแล้ว อาจเป็นเพราะสภาพคล่องทางการเงินตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
ทีนี้ตัวเลือกของเจ้าบุญทุ่มก็จะเหลือแค่ โอบาเมยอง เท่านั้น แล้วเขาจะตัดสินใจอย่างไรกันล่ะ