เมื่อแฟนบอลจากทั่วโลกลุกขึ้นยืนปรบมือให้ถึงความพยายามของ คริสเตียน อีริคเซน ห้องเครื่องจากแดนโคนม หลังจากที่เจ้าตัวไม่ย่อท้อ และถดถอยจากอาการหัวใจเต้นผิดปกติ จนทำให้ อีริคเซน เกือบที่จะยุติอาชีพค้าแข้งเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดห้องเครื่องจอมเทคนิคนักเตะทีมชาติเดนมาร์ก ก็ได้ย้ายเข้ามาเซ็นสัญญากับทีม เบรนท์ฟอร์ด ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยการเซ็นสัญญา 6 เดือน แบบฟรีค่าตัว
ย้อนกลับไปในเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในวันที่ 12 มิถุนายน 2021 เป็นเกมพบกันระหว่างเดนมาร์ก และฟินแลนด์ ซึ่งในเกมดังกล่าวเป็นการเปิดศึกการแข่งขัน ยูโร 2020 และแน่นอนว่า อีริคเซน ล้มลงกับพื้นโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ และไม่ได้สติจนทีมแพทย์เข้าให้การช่วยเหลือ และต่อจากนั้นก็ได้รับแจ้งจากทีมแพทย์ว่าเจ้าตัวมีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ และหากปล่อยให้ล่วงเลยต่อไปโดยที่ไม่ได้รับการรักษาหัวใจของ อีริคเซน อาจจะหยุดเต้นเอง ก็เป็นได้
และในช่วงที่เกิดเหตุการณ์เรื่องหัวใจเต้นผิดปกติของ อีริคเซน เจ้าตัวอยู่ภายใต้เครื่องแบบของ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน และแน่นอนว่า อีริคเซน ต้องฝังเครื่องช่วยกระตุ้นหัวใจนับตั้งแต่ที่เจ้าตัวเกิดเหตุในศึก ยูโร 2020 เพื่อที่จะให้ อีริคเซน ได้ใช้ชีวิตประจำวัน
และทีมแพทย์ก็ได้แนะนำให้ อีริคเซน ยุติอาชีพค้าแข้งเพราะเกรงว่าจะเสียชีวิต และอีกประเด็นสำคัญ กัลโช เซเรีย อา ไม่อนุญาตให้นักเตะที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ เกี่ยวกับหัวใจเต้นผิดปกติลงทำการแข่งขัน และนั่นจึงทำให้ “งูใหญ่” และ อีริคเซน พวกเขาตัดสินใจยกเลิกสัญญาทันทีในปลายปี 2021
และด้วยความพยายามและไม่ท้อถอยของ อีริคเซน เจ้าของฉายา “ไอ้เสือยิ้มยาก” เจ้าตัวจึงได้ไปขอร่วมฝึกซ้อมกับทีมเก่าอย่าง อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม เพื่อที่จะเรียกความฟิต และในช่วงขณะนั้นตัวแทนของ อีริคเซน พร้อมกับทีมเจรจาของ อินเตอร์ มิลาน ที่พวกเขาได้ร่วมมือกัน เพื่อที่จะหาทีมให้ อีริคเซน ได้กลับมาลงสนามอีกครั้งก็ได้ทำงานสัมฤทธิ์ผล หลังจากที่พวกเขาได้บรรลุข้อตกลงพาตัว อีริคเซน มาเซ็นสัญญากับ เบรนท์ฟอร์ด เป็นระยะเวลา 6 ปีแบบฟรีค่าตัว
และสโมสร เบรนท์ฟอร์ด ที่อยู่กลางตารางของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่คว้าตัว อีริคเซน มาร่วมทัพเป็นระยะเวลา 6 เดือน พวกเขาก็ได้แถลงในวันที่ 31 มกราคม 2022 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะได้ปิดตัวลง และภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง เสื้อแข่งของสโมสร เบรนท์ฟอร์ด มียอดเพิ่มขึ้น 30 เท่า จากยอดซื้อทั่วโลก
และนี่พิสูจน์ให้เห็นได้ว่า ถึงแม้ทั่วโลกจะไม่ใช่แฟนบอลของ เบรนท์ฟอร์ด แต่สำหรับสิ่งที่ อีริคเซน ทำให้แฟนบอลได้เห็นนั่นก็คือความพยายาม และท้ายที่สุดโลกลูกหนังของ อีริคเซน ก็กลับมาสดใสเหมือนเดิมเพราะเจ้าตัวได้รับโอกาสลงเล่นอีกครั้งบนผืนหญ้าใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ