การตัดสินใจไม่เซ็นนักเตะใหม่ในซัมเมอร์ที่แล้ว กลับกลายมาสร้างความได้เปรียบให้กับ Liverpool.
เชื่อว่า สาวกหงส์แดงหลายคนคงจะรู้สึกฉงนในความอินดี้ของบอส Jurgen Klopp ว่าทำไม๊…ทำไม ถึงไม่เสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แอดก็งงครับ ฮ่า ๆ ๆ.
แต่ตอนนี้ สถานการณ์ไม่ได้อยู่ในภาวะปกติ การแข่งขันถูกระงับ ตลาดซื้อ-ขายถูกเลื่อน สโมสรแต่ละสโมสรมีรายจ่าย แต่รายรับเป็นศูนย์ ฝืดเคืองกันหมดครับ.
สื่อได้รายงานและคาดคะเนเกี่ยวกับ ค่าตัวที่จะถดถอยลงของนักเตะ ไว้ว่า ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ อาจจะทำให้ราคาค่าตัวนักเตะโดยรวมเสื่อมลงไปได้มากถึง 1.6 พันล้านปอนด์ นั่นก็หมายถึงมูลค่าของสโมสรที่จะลดลงตามไปด้วย.
ผลกระทบนี้ โดนกันหมดครับ ทุกสโมสรเลย บางสโมสรต้องจำกัดจำเขี่ยเม็ดเงินที่มีเพื่อความอยู่รอดของสโมสร ไม่ต้องไปคิดเรื่องการซื้อตัวนักเตะเลย หนักสุดอาจจะต้องขายนักเตะเพื่อประคองสโมสรด้วยซ้ำ จากวิกฤติระดับโลกในตอนนี้.
ตัดกลับมาที่ Liverpool ทีมของพวกเราดีกว่า ความได้เปรียบที่ว่า ทุกคนอยากรู้แล้วว่า มันอยู่ตรงไหนวะ แอด ?
แอดตอบครับ ด้วยภาวะการเงินที่ฝืดเคืองแบบนี้ ตลาดซื้อ-ขายนักเตะ ความได้เปรียบจะตกเป็นของสโมสรที่ต้องการซื้อนักเตะหน้าใหม่มาร่วมทัพครับ สโมสรผู้ซื้อได้เปรียบ สโมสรผู้ขายเสียเปรียบเต็ม ๆ.
นักเตะหน้าใหม่แต่ละคน ถูกแปะป้ายราคาไว้สูงมาก มากจนราคาดูบ้าคลั่งไปเลย ที่ Liverpool เคยมีข่าวเชื่อมโยงด้วยก็อย่าง Jadon Sancho(ตัวนี้น่าจะไปแมนฯยูแล้วล่ะ), Kai Havertz แฟนหงส์แดงบอกว่าแพงทั้งนั้น 100 ล้านทั้งคู่.
และก็มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่นักเตะรายอื่นที่ Liverpool สนใจ จะเจอกับภาวะค่าตัวถดถอยแน่ ๆ พวกเราก็อาจจะเห็น Liverpool มีข่าวเชื่อมโยงกับนักเตะฝีเท้าดีอีกหลายราย แถมตอนนี้ทีมพวกเราก็เนื้อหอมด้วย นักเตะบางคนอาจจะอยากมาร่วมทัพด้วยค่าตัวที่ถูกลง.
ด้วยฝีมือระดับมหากาฬของ Michael Edwards และทีมซื้อ-ขายของ Liverpool นี่แหละครับ อาจจะทำให้พวกเรา ว้าว ดัง ๆ หลังจากที่สถานการณ์ทุกอย่างปกติดีแล้ว…
