หากจะตั้งฉายา “เจ้าบุญทุ่ม” ให้กับสโมสรในพรีเมียร์ลีกคงไม่มีทีมไหนเหมาะไปกว่า “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้อีกแล้ว นักเตะซูเปอร์สตาร์คนแล้วคนเล่าถูกซื้อตัวมาร่วมทีม และเป็นสโมสรที่ต้องถือว่าใช้เงินสร้างความสำเร็จได้อย่างแท้จริง
และเจ้าของทีมแมนฯซิตี้ก็คือชีก มานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน ราชวงศ์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นเจ้าของสโมสรที่รวยที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยมีทรัพย์สินมีมูลค่ารวมกัน 23.2 พันล้านปอนด์
แต่ตำแหน่งเจ้าของทีมที่รวยที่สุดของชีก มานซูร์ อาจจะต้องเปลี่ยนมือเสียแล้ว หากว่ากลุ่มทุน “พับลิก อินเวสต์เมนต์ ฟันด์” (พีไอเอฟ) จากซาอุดีอาระเบีย ประสบความสำเร็จในการเข้าเทกโอเวอร์สโมสรนิวคาสเซิลด้วยมูลค่า 300 ล้านปอนด์ โดยจะเข้าถือหุ้นจำนวน 80 % ของสโมสร
โดยผู้สนับสนุนพีไอเอฟก็คือ ปรินซ์ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน หรือมกุฎราชกุมารซาอุดิอาระเบีย ซึ่งทรงมีทรัพย์สิน 320 พันล้านปอนด์ ซึ่งมากกว่าชีก มานซูร์ ราวสิบกว่าเท่า
มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียวัย 34 เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระราชาธิบดี ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด กษัตริย์องค์ปัจจุบันแห่งซาอุดีอาระเบีย
ในปี 2015 ทรงซื้อคฤหาสน์หรูหราอยู่ที่ทางตะวันตกกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสซึ่งมีมูลค่าถึง 230 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นการซื้อคฤหาสน์ที่แพงที่สุดในโลก คฤหาสน์ดังกล่าวมีพื้นที่กว่า 50,000 ตารางฟุต มีห้องนอน 10 ห้อง มีสระว่ายน้ำทั้งในร่มและกลางแจ้ง ห้องสมุด และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ในปีเดียวกัน ได้ซื้อเรือยอชต์ ซีรีน ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดเรือยอชต์ที่มีขนาดใหญ่และหรูหราที่สุดในโลก ซึ่งมีมูลค่ากว่า 380 ล้านปอนด์
ในปี 2917 มีรายงานว่ามีคนประมูลซื้อภาพเขียนที่มีชื่อว่า “ซัลวาตอร์ มุนดี” ของเลโอนาร์โด ดาวินชี ด้วยราคาประมูล 340 ล้านปอนด์ซึ่งคาดว่าปรินซ์ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานจะเป็นมหาเศรษฐีลึกลับที่ประมูลซื้อในครั้งนั้น แต่ “คริสตี” บริษัทประมูลปฎิเสธข่าวดังกล่าว และรูปภาพดังกล่าวตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ในอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานข่าวว่าพระองค์เคยสนพระทัยจะซื้อสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ล่าสุดจะเป็นการเทกโอเวอร์นิวคาสเซิล ในนามของพับลิก อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ (พีไอเอฟ) หลังจากการเจรจาครั้งแรกไม่ประสบผลสำเร็จ
หากการเทกโอเวอร์ครั้งนี้สำเร็จ นิวคาสเซิลจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบสั่นสะเทือนวงการอย่างแน่นอน
เจ้าของสโมสรผู้มั่งคั่งในวงการฟุตบอล
1.ชีก มานซูร์ (แมนฯซิตี้) 23.2 พันล้านปอนด์
ชีก มานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน เข้าเทกโอเวอร์แมนฯซิตี้ตั้งแต่ปี 2008 และสร้างให้ “เรือใบสีฟ้า” กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก แต่หน้าที่บริหารสโมสรตกเป็นของคัลดูน คาลิฟา อัล บูมารัค
2.ดีทริช มาเตชิตส์ (อาร์เบ ไลป์ซิก,อาร์เบ ซัลสบวร์ก) 15.7 พันล้านปอนด์
ผู้ก่อตั้งแบรนด์ “เรดบูลล์ส” ลงทุนในกีฬาหลายชนิด แต่เริ่มลงทุนในการเป็นเจ้าของสโมสรเริ่มต้นกับซัลส์บวร์กในออสเตรียจากนั้นจึงตามมาด้วยไลป์ซิก และทั้งสองทีมได้เล่นในยูฟา แชมเปียนส์ลีก
3.อันเดรีย อันเญลี (ยูเวนตุส) 15.7 พันล้านปอนด์
ครอบครัวอันเญลีเป็นเจ้าของธุรกิจรถยนต์ “เฟียต” และเขาสืบทอดตำแหน่งประธานสโมสรยูเวนตุสต่อจากฮุมแบร์โต้พ่อของเขาเมื่อปี 2010
4.โรมัน อับราโมวิช (เชลซี) 9.6 พันล้านปอนด์
หลังจากเข้ามาเทกโอเวอร์เชลซีเมื่อปี 2003 มหาเศรษฐีชาวรัสเซียก็พลิกโฉม “สิงโตน้ำเงินคราม” ทันที ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก แชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก และยังรักษามาตรฐานการเล่นไว้ได้ดีเหมือนเดิม
5.ฟิลิป อันชูทซ์ (แอลเอ กาแล๊กซี) 8.1 พันล้านปอนด์
ธุรกิจของครอบครัวอันชูทซ์คือการขุดเจาะน้ำมัน หลังจากนั้นเขาจึงหันมาทุ่มเทด้านกีฬาอย่างเต็มตัว ร่วมก่อตั้งฟุตบอลเมเจอร์ลีกของสหรัฐ และเป็นเจ้าของทีมสโมสรหลายต่อหลายทีมไล่มาตั้งแต่ แอลเอ กาแล๊กซี,ชิคาโก ไฟร์,โคโลราโด ราปิดส์ ฯลฯ