หากพูดถึงยุคทองของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แน่นอนหลายคนยังคงจำได้กับการพลิกแซงโกงความตายใน 3 นาทีสุดท้ายช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในปี 1999 ที่เอาชนะ บาเเยิร์น มิวนิค ได้อย่างปาฏิหาริย์ ส่งผลให้ทัพปีศาจแดง คว้า 3 แชมป์ ได้อย่างเหลือเชื่อ
ซึ่งแชมป์แรกที่ได้มาครองคือพรีเมียร์ลีก ทัพปีศาจแดงในตอนนั้นกุมบังเหียนโดย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พวกเขาเชือดเฉือนเอาชนะอาร์เซน่อล 1 คะแนนเท่านั้น ทัพปืนใหญ่ตอนนั้นภายใต้การกำกับของ อาร์เซน เวนเกอร์
ขณะที่ถ้วย เอฟเอ คัพ ในรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ทัพปีศาจแดง เสมอกับ ทัพปืนใหญ่ 0-0 และพอกลับมาเตะนัดสองใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็เอาชนะอาร์เซน่อลด้วยสกอร์ 2-1 เข้าไปชิงดำกับนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และผลก็คือทัพปีศาจแดงเอาชนะไปแบบสบายๆ 2-0
ส่วนแชมป์ UCL ปีนั้น 1999 ณ สนาม คัมป์ นู ต้องบอกว่ามีประเด็นดราม่าแบบสุดๆ เพราะแมนฯยูขาดกัปตันทีมคนสำคัญ รอย คีน ดันโดนโทษแบน ทำให้เขาหมดสิทธิ์ช่วยทีมในเกมนี้ เกมเริ่มต้นอย่างสนุก บาเยิร์น มิวนิค ครองเกมได้เหนือกว่า เพียงแค่นาทีที่ 6 ก็ได้ประตูขึ้นนำ จากฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ โดย มาริโอ บาสเลอร์ ซึ่งแมนฯยูเองก็เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานของพวกเขา บาเยิร์นยุกหนักและมีจังหวะทำสกอร์เพิ่มหลายครั้ง แต่ทำไม่ได้ จบครึ่งแรกเป็นทัพเสือใต้ขึ้นนำ 1-0
ซึ่งจุดพีคและมีส่วนสำคัญให้นักเตะของแมนฯยู เกิดความหึกเหิมและกระหายในชัยชนะ นั่นคือตอนที่ เซอร์ อเล็กซ์ กล่าวกับลูกทีมในช่วงพักครึ่งว่า
” หลังจากจบเกมนัดนี้ ถ้วยยูโรเปี้ยน คัพ จะอยู่ห่างจากพวกนายแค่เพียง 6 ฟุตเท่านั้น และพวกนายจะหมดสิทธิ์สัมผัสมัน หากว่าเป็นผู้แพ้ สำหรับพวกนายหลายคนคงไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว เพราะงั้นอย่ากลับมา หากว่าพวกนายไม่ได้พยายามอย่างสุดความสามารถ “
จากนั้น พอเริ่มครึ่งหลัง เฟอร์กูสัน เปลี่ยนตัว เจสเปอร์ บอมควิส ออก แล้วส่ง เท็ดดี้ เชอร์ลิงแฮม ยังคงเป็นทัพเสือใต้ที่มีโอกาสหนีห่างในหลายจังหวะ ทั้งลูกยิงชิพชนคาน รวมถึงลูกยิงโอเวอร์เฮดคิก ก็ดันไปชนคานอีกครั้ง พูดง่ายๆก็คือแมนฯยูแมบจะไม่มีโอกาสได้จบสกอร์เลยด้วยซ้ำ เสือใต้ครองเกมได้เหนือกว่าชัดเจน บอลแทบไม่ไปถึงหน้ากรอบเขขโทษบาเยิร์นเลย เซอร์ อเล็กซ์ ตันสินใจเปลี่ยน แอนดี้ โคล ออก แล้วส่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลา ลงไปแทน 15 นาทีสุดท้ายของครึ่งหลัก แมนยูมีโอกาสบุกมากขึ้น และไดจบสกอร์หลาย ครั้ง แต่ก็ยังง่ายไปที่จะผ่านมือของ โอลิเวอร์ คานน์
เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีแรก ทัพปีศาจแดงได้ลูกเตะมุม ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล จำเป็นต้องวิ่งขึ้นมาเพื่อลุ้นทำประตู เดวิด เบ๊คแฮม โยนเข้าไปชไมเคิ่ลโหม่งได้ แต่โดนสกัด บอลมาเข้าทาง ไรอัน กิ๊กซ์ เขายิงด้วยขวา บอลไปเข้าทางเชอร์ริ่งแฮม และก็กลับตัวยิงเข้าไปอย่างน่าเหลือเชื่อ
และสิ่งในที่สุดปาฏิหาริย์ก็บังเกิดอีกครั้งในโลกลูกหนัง ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดม้าย โซลชา ทำให้แมนยูได้ลูกเตะมุม เบคแฮม ครอสบอลไปเสาแรก เชอร์ริงแฮมโหม่งเปลี่ยนทาง บอลไปหาโซลชาและเขาก็ยิงเสยมุมบนเข้าไปชนิดเหลือเชื่อ ซึ่งในที่สุดแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็คว้า 3 แชมป์มาครองได้อย่างสุดโอเวอร์