สำหรับในวงการลูกหนังโดยเฉพาะสโมสรระดับแถวหน้าของวงการอย่างเช่น “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับเรื่องของการปั้นเด็กจากชุดเยาวชนขึ้นมาใช้งานกับทีมชุดใหญ่ และในยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาทำงานเป็นผู้จัดการทีมให้กับอาร์เซนอล ตั้งแต่ปี 1996 ถึงปี 2018 (22ปี) แน่นอนว่า เวนเกอร์ ปั้นเด็กหนุ่มจากเยาวชนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่หลายราย และหนึ่งในนั้นก็คือ แอชลี่ย์ โคล ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าในยุคนั้นแบ็คซ้ายเบอร์ 1 ที่เล่นได้อย่างครบเครื่องสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเกมรุก และเกมรับ หรือได้รับขนานนามว่า หากกองหน้ารายไหนดวลเดี่ยวกับ แอชลี่ย์ โคล 99% จะต้องถูกเก็บเรียบ
และแน่นอนว่าการย้ายทีมของ แอชลี่ย์ โคล จาก “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล เข้าสู่ทัพ “สิงห์บลูส์” เซลซี ในช่วงพีคของการเป็นอาชีพนักเตะในสายตาของแฟนบอลอาร์เซน่อล ที่มองว่า แอชลี่ย์ โคล คือ “คนทรยศ” และแน่นอนว่าจากอดีตจนถึงปัจจุบัน เมื่อแฟนบอล “ปืนใหญ่” พูดถึง แอชลี่ย์ โคล เขาก็ถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศเบอร์ 1 ของสโมสร
ต้องย้อนกลับไปก่อนในปี 2006 เป็นปีที่ แอชลี่ย์ โคล ย้ายจากอาร์เซน่อล เข้าสู่สโมสรเชลซี ซึ่งในปีนั้นเป็นปีที่ โรมัน อับราโมวิช เศรษฐีชาวรัสเซียเข้ามาเทคโอเวอร์เป็นปีแรก และดึง โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นผู้จัดการทีม นั่นคือการเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของเชลซี จนถึงปัจจุบันนี้
แอชลี่ย์ โคล คือนักเตะระดับแถวหน้าของวงการลูกหนังพรีเมียร์ลีก ภายใต้สังกัดทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ซึ่งอาจจะอยู่ในชุดแชมป์ไร้พ่ายกับทีมปืนใหญ่ในปี 2003 – 04 ซึ่งตอนนั้น แอชลี่ย์ โคล อยู่ในวัย 22 ปี และอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดของอาชีพนักฟุตบอล และเรียกว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่ทว่าในมุมมองของอาชีพที่รับค่าเหนื่อยอยู่ที่ 50,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เจ้าตัวต้องการค่าเหนื่อยที่เพิ่มมากขึ้นกับสัญญาฉบับใหม่ที่จะหมดลงในปี 2006 กับทีมอาร์เซนอล ซึ่ง แอชลี่ย์ โคล ต้องการอย่างน้อย 90,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่ท้ายที่สุด อาร์เซนอล ก็ไม่สามารถที่จะจ่ายได้ และไม่มีทางเป็นไปได้กับค่าเหนื่อยที่ แอชลี่ย์ โคล ต้องการ นั่นจึงทำให้ในปี 2006 แอชลี่ย์ โคล ในวัย 25 ปีย้ายเข้ามาร่วมทัพ “สิงห์บลูส์”
และด้วยศักยภาพของ แอชลี่ย์ โคล ที่เจ้าตัวพัฒนาฝีเท้าในทุก ๆ ปี และแน่นอนว่านับตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่เชลซี แอชลี่ย์ โคลประสบความสำเร็จกับเชลซีอย่างมากมาย ซึ่งตลอดระยะเวลา 8 ปีที่อยู่กับทัพสิงห์บลูส์ เจ้าตัวประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่แน่นอนว่าในฝั่งของทีมอาร์เซนอล ซึ่งแฟนบอลไม่ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับวงการลูกหนัง ซึ่งพวกเขามองว่า แอชลี่ย์ โคล ซึ่งเป็นคนของเมืองลอนดอน และเป็นสังกัดของทีมอาร์เซนอล และได้แจ้งเกิดกับทีมชุดเยาวชน แต่สุดท้ายก็หักหลังและถูกตราหน้าว่าเป็น “คนทรยศ” และเป็นนักเตะหน้าเงิน
แตทว่าสิ่งที่ แอชลี่ย์ โคล ต้องการสโมสรเชลซี ทีมมอบให้ทั้งหมด ซึ่งสัญญาค่าเหนื่อยที่เชลซียอมจ่ายแพงที่สุดให้กับอาชีพของ แอชลี่ย์ โคล อยู่ที่ 170,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งอาร์เซนอลไม่สามารถจ่ายได้แน่นอน จนกระทั่ง แอชลี่ย์ โคล นำร่องกับการย้ายทีมจากอาร์เซนอลมาสู่ทีมคู่แข่งอย่างเชลซี และก็มีนักเตะอีกหลายรายที่ทยอยย้ายตามออกมาจากสีเสื้อของ “ปืนใหญ่” เข้าสู่ทีมตู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น
ซามีร์ นาสรี 2008 – 2011 อาร์เซน่อล / 2011 – 2017แมนเชสเตอร์ ซิตี้
โคโล ตูเร่ 2002 – 2009 อาร์เซน่อล / 2009 – 2013 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
กาแอล กลีชี 2003 – 2011อาร์เซน่อล / 2011 – 2017 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เอ็มมานูเอล อาเดบายอร์ 2006 – 2009 อาร์เซนอล 2009 – 2012แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แต่ทว่าว่าคำด่าทอและการตราหน้าจากแฟนบอลที่โฟกัสไปที่ แอชลี่ย์ โคล และในปัจจุบันนี้ก็ยังคงถูกตราหน้าเหมือนเดิม นั่นก็เพราะว่า แอชลี่ย์ โคล คือนักเตะคนแรกของทีม “ปืนใหญ่” ที่ย้ายเข้าสู่ทัพเชลซี ซึ่งในช่วงนั้นยังไม่มีเด็กปั้นของอาร์เซน่อล รายไหนที่ย้ายค่ายไปสู่ทีมคู่แข่ง รวมแม้กระทั่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ย้ายออกจากอาร์เซน่อล ในปี 2012 เข้าสู่ทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังไม่ถูกตราหน้าและด่าทอเท่ากับ แอชลี่ย์ โคล จะต้องโดน