ทุกครั้งที่พูดถึงสินค้าส่งออกของประเทศบราซิล นั่นหมายถึงนักฟุตบอล จะมีชื่อของ โจวานนี่ เอลแบร์ ติดปากขึ้นมาเสมอ เพราะแฟนบอลทั่วโลกโดยเฉพาะแฟนบอล “เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิค พวกเขาต่างก็จดจำกองหน้าเลือดแซมบ้า ที่ลงล่าตาข่ายให้กับทีมตลอดระยะเวลา 7 ปี ภายใต้เครื่องแบบของ “เสือใต้” แต่รู้หรือไม่ว่า เอลแบร์ คือกองหน้าจอมอาภัพที่เจ้าตัวไม่เคยได้รับโอกาสติดทีมชาติไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแม้แต่ครั้งเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นนักเตะตีนหนักและอยู่ในวงโคจรกองหน้าตัวล่าตาข่ายของทีมในระดับสโมสร
แต่ตลอดระยะเวลาที่โลดแล่นในเวทียุโรป ไม่ว่าจะเป็นสโมสร เอซี มิลาน หรือสโมสรซูริค ของลีกสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงการแจ้งเกิดกับสตุ๊ตการ์ท และย้ายมาประสบความสำเร็จกับ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงปี 1997 ถึง 2003 เอลแบร์ ลงสนามให้กับทีมชาติเพียงแค่ 15 เกมเท่านั้น และเป็นเกมที่ไม่มีความสำคัญ และส่วนมากเป็นเกมกระชับมิตรมากกว่า นั่นจึงทำให้เจ้าตัวประกาศว่าจะไม่เล่นทีมชาติในวัย 29 ปี เพราะว่า เอลแบร์ พลาดโอกาสกับการติดทีมชาติหลายครั้ง
และแน่นอนว่า ถึงแม้ เอลแบร์ จะเป็นกองหน้าที่พร้อมจะยิงแบบกระจุยกระจายเพราะตลอดอาชีพ เอลแบร์ ยิงมากถึง 389 ประตู ยังไม่รวมกับเกมกระชับมิตรที่หากนำมานับรวมกันอาจจะมีมากกว่า 400 ประตูแน่นอน และตลอดระยะเวลา 7 ปีที่อยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค เอลแบร์ ก็คือกองหน้าที่ดีที่สุดในลีกบุนเดสลีกา ในช่วงที่เล่นให้กับ บาเยิร์น มิวนิค 7 ปี
แต่ทว่าโอกาสที่จะติดทีมชาติบราซิลก็ยังไม่ใช่ของ โจวานนี่ เอลแบร์ และคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ เอลแบร์ จะไม่ติดทีมชาติบราซิล เพราะถ้าหากวิเคราะห์ 2 สถานการณ์กับช่วงระยะเวลาที่ เอลแบร์ สามารถระเบิดฟอร์มได้ช่วงแรก นั่นก็คือทีมชาติบราซิลมีกองหน้าที่ชื่อว่า “โรนัลโด้” หรือที่รู้จักกันอย่างคุ้นหูว่า Ronaldo (R9) และแน่นอนว่า เอลแบร์ ไม่มีทางที่จะไปเทียบรัศมีของ โรนัลโด้ (R9) ได้แน่นอน
และในช่วงนั้น Ronaldo (R9) ก็พาทีมชาติบราซิล ตะลุยเข้าชิง “ฟรองซ์ 98” ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ แต่ทว่าบราซิลก็พลาดท่าแพ้ในนัดชิงชนะเลิศ จนกระทั่งใน 4 ปีต่อมา สโกลารี เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม และ เอลแบร์ มีโอกาสที่จะติดทีมชาติบราซิลเพื่อไปลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เพราะ สโกลารี วางแผนกองหน้า 3 ตัว
แต่บารมีพร้อมกับวาสนาของ เอลแบร์ ก็ยังคงไม่ถึงที่จะต้องติดธงชาติบราซิลที่หน้าอก แล้วไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2002 ที่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วม เพราะในช่วงนั้นถึงแม้ว่า สโกลารี จะปรับแผนมาเล่นหน้า 3 และ เอลแบร์ มีโอกาสพี่จะอยู่ในแผนของนาย สโกลารี แต่นั่นก็คือยุคแจ้งเกิดของ “ไอ้เหยิ่น” โรนัลดินโญ ที่ สโกลารี ใช้แผนหน้า 3 ที่ประกอบไปด้วย (โรนัลโด้ – ริวัลโด้ – โรนัลดินโญ) นั่นจึงทำให้ เอลแบร์ หมดโอกาสที่จะติดทีมชาติบราซิลอีกครั้ง และเจ้าตัวก็ประกาศว่าจะไม่เล่นทีมชาติอีกเลย