คงจะมองข้ามไปก็คงไม่ได้สำหรับความดิบเถื่อนและเดือดดาน เมื่ออยู่ในสนามหรือว่าจะอยู่ข้างถนน สำหรับนักเตะที่ชื่อว่า “โจอี้ บาร์ตัน แน่นอนว่าหากพูดชื่อนี้ขึ้นมา แฟนบอลที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ โจอี้ บาร์ตัน ลงสนามสิ่งที่พวกเขาจะพูดถึงคำแรกคือ “ไอ้สาระเลว” รวมแม้กระทั่งคำด่าทอหยาบคายต่าง ๆ มากมาย เพราะโจอี้ บาร์ตัน คืออันธพาลลูกหนังที่ประจำการในลีกเมืองผู้ดีในยุคเริ่มต้น เพราะเขาเป็นคนอังกฤษ ก่อนที่จะย้ายตะเวนไปเล่นให้กับลีกฝรั่งเศส กับสโมสรโอลิมปิก มาร์กเซย์ และแฟนบอลฝั่งตรงข้ามต่างก็รู้จักชื่อเสียงเรียงนามกับอันธพาลลูกหนังของจริง เมื่อ โจอี้ บาร์ตัน สวมสตั๊ดลงบนพื้นหญ้า
แรงผลักดันที่มาพร้อมกับความรุนแรงบนเส้นทางอาชีพ โจอี้ บาร์ตัน ตั้งแต่เป็นเด็ก
ถ้าหากจะพูดนักเตะในโซนยุโรป โดยเฉพาะนักเตะอังกฤษคงต้องนึกถึงนักเตะที่มีรูปร่างสูงใหญ่ และเล่นได้อย่างคล่องแคล่ว แต่แน่นอนว่า โจอี้ บาร์ตัน ที่เล่นในตำแหน่งกองกลาง ซึ่งมีส่วนสูงเพียงแค่ 5 ฟุต 9 นิ้ว หรือประมาณ 175 เซนติเมตรเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นนักเตะโซนยุโรปอังกฤษที่ตัวเล็กเป็นอย่างมาก และทีมในดวงใจก็คือสโมสรเอฟเวอร์ตัน จนทำให้ โจอี้ บาร์ตัน ก้าวเข้าสู่ชุด Academy ของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” แต่แล้วในปี 1996 โจอี้ บาร์ตัน ก็ถูกยกเลิกสัญญาไม่ใช่เพราะเรื่องฝีเท้า แต่ปัญหาคือ โจอี้ บาร์ตัน คือนักเตะที่ตัวเล็ก
และแน่นอนว่านั่นอาจจะเป็นบางส่วนที่ทำให้ โจอี้ บาร์ตัน มองถึงสรีระรูปร่างของตัวเอง ซึ่งเล่นในตำแหน่งกองกลาง และจะต้องประทะแบบรอบด้านเมื่ออยู่ในสนาม จึงทำให้ โจอี้ บาร์ตัน ใช้ความรุนแรงเข้ามาช่วยเมื่อครั้งอยู่ในสนาม และแน่นอนว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือสถานที่แจ้งเกิดของจริง ด้วยความเดือดดาลของ โจอี้ บาร์ตัน ที่ย้ายเข้าสู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งสโมสรแห่งนี้ โจอี้ บาร์ตัน เป็นทั้งฮีโร่และไอ้สาระเลวในสายตาแฟนบอลตัวเอง
วีรกรรมทั้งในและนอกสนาม โดยเฉพาะใน “เรือใบสีฟ้า” ที่ โจอี้ บาร์ตัน จารึกวีรกรรมไว้อย่างสุดแสบ
โจอี้ บาร์ตัน อยู่ร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2002 ถึงปี 2007 ก่อนที่จะย้ายไปอยู่นิวคาสเซิล ในปี 2007 ถึงปี 2011 และแน่นอนว่า โจอี้ บาร์ตัน ย้ายไปเล่นกับครีนปาร์คเรนเจอร์ในปี 2011 ถึงปี 2015 และต่อมาได้รับการยกย่องจากแฟนบอลฝรั่งเศสกับสโมสรโอลิมปิก มาร์กเซย ด้วยสัญญายืมตัวในปี 2012 ถึงปี 2013
และหากจะพูดถึงวีรกรรมของ โจอี้ บาร์ตัน อันธพาลที่ไม่ว่าจะอยู่ในสนามหรือว่าข้างถนนไอ้หมอนี่มีครบหมดทุกอย่าง ถึงขนาดว่าแฟนบอลตะโกนด่าข้างถนนยังปี่เข้าไปหาในร้านแมคโดนัลด์ เพื่อที่จะทำร้ายร่างกาย จนถูกจองจำถึง 77 วัน แต่วีรกรรมที่แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแฟนบอลทั่วโลกต้องจดจำก็คงจะเป็นเหตุการณ์ที่ โจอี้ บาร์ตัน ใช้ความรุนแรงกับเพื่อนร่วมทีมในช่วงที่อยู่กับสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงแม้ว่า โจอี้ บาร์ตัน จะเป็นแข้งระดับซีเนียร์และมีอิทธิพลในห้องแต่งตัวก็ตาม แต่ด้วยนิสัยหรือสิ่งที่แฟนบอลมองว่า โจอี้ บาร์ตัน ได้แสดงออกแม้กระทั่งกับทีมตัวเอง ซึ่งเหตุการณ์ในปี 2004 ดาวรุ่งที่ชื่อ จิมมี่ เทรนดี้ ในงานเลี้ยง Merry Christmas ไอ้เด็กหนุ่มคนนี้พยายามที่จะเผาเสื้อของ โจอี้ บาร์ตัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม และโจอี้ บาร์ตัน “ก็ใช้บุหรี่ที่อยู่ในมือจี้เข้าที่ตาของ จิมมี่ เทรนดี้” ซึ่งถือว่าเป็นความรุนแรงภายในสโมสรที่ไม่มีใครรับได้
รวมกระทั่งเหตุการณ์ในปี 2007 ที่ โจอี้ บาร์ตัน กระโดดตะบันหน้า อุสมาน ดาโบ เพื่อนร่วมทีมที่มีปากเสียงกันในสนามซ้อม จนทำให้ อุสมาน ดาโบ ตาปิดไป 1 ข้าง พร้อมกับเลือดกบปาก และนั่นคือจุดแตกหักของจริงในปี 2007 ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตัดสินใจขาย โจอี้ บาร์ตัน ออกจากทีม เพราะถือว่าเป็นตัวปัญหา และเป็นช่วงที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยกเครื่องใหม่ทั้งหมดนับตั้งแต่ที่ ทักษิณ ชินวัตร เข้าไปเทคโอเวอร์