เมื่ออาร์วีพีไม่อยู่ในแผนการทำทีมอีกต่อไป เขาจึงถูกแบนจากการไปซ้อมในช่วงพรีซีซั่น และนำไปสู่การต้องย้ายทีมใน ปี 2015
“ในฤดูกาลสุดท้ายของผม ผมได้คุยกับ หลุยส์ ฟาน กัล” กองหน้าวัย 36 ปี กล่าวผ่าน Jake Humphrey’s High Performance podcast
“ผมมี 2 ฤดูกาลที่ดีมาก กับการลงเล่นให้ทีมชาติซึ่งเขาคุมอยู่ แต่ ฤดูกาลสุดท้ายของผมที่แมนเชสเตอร์ นั่นคือฤดูกาลแรกที่เขาเข้ามาคุม มันไม่ดีเท่าไหร่”
“ผมได้คุยกับ หลุยส์ ฟาน กัล และเขาบอกกับผมว่า “เอาละ โรบิน ฉันเป็นโค้ช นายเป็นผู้เล่น นายต้องไป เวลาของนายหมดแล้ว”
“ผมบอก ผมยังมีสัญญาอยู่นะ แต่เขาตอบกลับมาว่า ‘ฉันไม่แคร์’ “
“พอใกล้จะถึงช่วงเวลาสุดท้ายที่ยูไนเต็ด ผมเห็นบางอย่างเข้ามา มันเป็นอะไรที่ดูโหดร้ายและ วิธีการที่เขาพูดก็เช่นกัน”
“หลายอย่างผ่านเข้ามาในหัวของคุณเมื่อคุณได้รับข้อความแบบนั้น เพราะผมยังมีสัญญาเหลืออยู่ ครอบครัวของผมคงโอเคมากกว่าถ้าพวกเขายังได้อยู่ในอังกฤษ พวกเราอยากอยู่ในอังกฤษ”
“แต่ เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ? ลูกๆของผมไปโรงเรียน พวกเขามีเพื่อนและทุกๆอย่าง แต่ในช่วงเวลาไม่กี่วินาที ทุกๆอย่างเหมือนผ่านเข้ามาและคุณจะจัดการกับมันยังไง?”
“ผมบอกกับ ฟาน กัล ‘ใช่ นี่คือความคิดของคุณ แต่ผมยังมีสัญญาอยู่แล้วผมก็ยังยินดีที่จะอยู่ในอังกฤษ ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับครอบครัวของผม ดังนั้นเราจะมาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ผมเชคแฮนด์กับเขาแล้วก็ยืนขึ้น ที่ที่เราคุยกันคือสนามกอล์ฟใน เมียร์ ผมยืนขึ้นแล้วก็เดินจากไป”
“ระหว่างทางกลับบ้าน ถ้าเป็นคุณจะรับมือกับคำพูดเหล่านั้นยังไง มันโหดร้ายเกินไป รับมือยาก แล้วก็ตรงมาก หลายๆอย่างผ่านเข้ามาในหัวของผม”
“พวกเราเริ่มช่วงพรีซีซั่น และผมก็ไม่ได้รับเลือกให้เล่นแมตช์ 11 vs 11 “
“คุณต้องพยายามใจเย็นเข้าไว้ แต่มีหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย ถึงคุณจะพูดว่า มันทำอะไรคุณไม่ได้ แต่มันก็ทำได้อยู่ดี สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อผม ครอบครัว แล้วมันก็ต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่นานพอสมควรบนเส้นทางการค้าแข้ง”