- คีเลียน เอ็มบัปเป้ (เปแอสเช) (200 ล้านยูโร)
หากพูดชื่อ เอ็มบัปเป้ คนดูบอลคงไม่มีใครไม่รู้จักเค้า เพราะตั้งแต่ขึ้นมามีชื่อเสียงกับโมนาโกเมื่อปี 2016 ชื่อของเค้าก็ไม่เคยถูกมองข้ามอีกเลย ด้วยผลงานที่คงเส้นคงวาทั้งกับสโมสรและทีมชาติฝรั่งเศส คว้าแชมป์กับ เปแอสเช มาครบทุกถ้วยในประเทศ แถมเป็นแชมป์ลีก 3 ฤดูกาลซ้อน (โมนาโก 2016-2017, เปแอสเช 2017-2018 / 2018-2019) รวมไปถึงแชมป์โลกเมื่อปี 2018 ที่รัสเซีย แล้วต้องไม่ลืมว่าเค้าพึ่งอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น จึงไม่แปลกว่าค่าตัวของเค้าจะถูกประเมินไว้สูงที่สุดในโลก
2. ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) (160 ล้านยูโร)
ราฮีม เป็นนักเตะที่ถูกพูดถึงว่ามีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก เขาระเบิดฟอร์มในฤดูกาล 2013-2014 เป็นสามประสานร่วมกับ หลุยส์ ซัวเรซ และ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ จนเกือบจะพาหงส์แดงเป็นแชมป์ลีกได้สำเร็จ ก่อนจะย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาล2015-2016 และเป็นที่นี่ที่ทำให้ฟอร์มของเขาพุ่งกระฉูดแบบสุดๆภายใต้การควบคุมดูแลของ เป็ป กวาร์ดิโอล่า ส่งผลให้เจ้าตัวเป็นนักเตะ 11 ตัวเลือกแรกในทีมทันทีหากไม่มีปัญหาในการลงสนาม รวมถึงการเป็นตัวหลักในทีมชาติอังกฤษ แถมยังคว้าแชมปได้ทุกถ้วยในประเทศ ทั้งแชมป์ลีก 2 สมัย , เอฟเอ คัพ 1 สมัย และ ลีกคัพ 4 สมัย
3. เนย์มาร์ (เปแอสเช) (160 ล้านยูโร)
เจ้าของนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก 222 ล้านยูโร ระเบิดฟอร์ม 3 ประสาน MSN ร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรส คว้าแชมป์แทบจะทุกถ้วยก็ว่าได้กับ บาร์เซโลน่า แต่แล้วเมื่อถึงจุดสำคัญในชีวิต เมื่อเขาคิดว่าไม่ว่าจะโชว์ฟอร์มร้ายกาจขนาดไหน ก็ยังเหมือนอยู่ได้แค่ใต้ร่มเงาของ เมสซี่ เท่านั้น จุดหักเหสำคัญในชีวิตการค้าแข้งก็เกิดขึ้น ปารีสทุ่มเงินอย่างบ้าคลั่งเป็นสถิติโลกฉีกสัญญาดึง เนย์มาร์ ไปร่วมทีม แต่อะไรๆก็ไม่ได้โรยด้วยกรีบกุหลาบ แทนที่จะได้ขึ้นไปทาบชั้น เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับกลายเป็นว่าดูเหมือนจะห่างออกไปทุกที แถมจะโดนคนอื่นแซงขึ้นมาอีก
4. ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล) (150 ล้านยูโร)
ค่าตัวที่หงส์แดงจ่ายให้กับ เซาแธมป์ตัน ประมาณ 40 ล้านยูโร กลายเป็นของถูกไปเลยเมื่อเทียบกับฟอร์มและผลงานที่ มาเน่ เสกให้กับทีม ทั้งการพาทีมเข้าชิง UCL 2 ปีซ้อน (รองแชมป์ 2017-2018 , แชมป์ 2018-2019) คว้าแชมป์สโมสรโลก 2019 รวมถึงในฤดูกาลปัจจุบันที่กำลังจะพา หงส์แดง เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ
5. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) (150 ล้านยูโร)
ย้ายมา ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2017-2018 หลัง มาเน่ 1 ฤดูกาล ผนึกกำลังกับ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ เป็น 3 ประสานพา ลิเวอร์พูล ทำผลงานดีอย่างต่อเนื่อง แถมผลงานส่วนตัวก็ยังยอดเยี่ยม ฤดูกาลแรกกดไปถึง 32 ประตูในลีก อาจจะโดนแฟนบอลบ่นว่าหวงบอลจนเกินไปรวมถึงบ้ายิงในบางจังหวะ แต่ตราบใดที่เครื่องจักรสีแดงตัวนี้ยังคงผลงานแรงต่อเนื่อง ก็เชื่อว่าคงไม่มีใครสนใจหรอกว่า ซาล่าห์ จะหวงบอลมากขนาดไหน
6. แฮร์รี่ เคน (สเปอร์ส) (150 ล้านยูโร)
กัปตันทีมชาติอังกฤษรายนี้ นับตั้งแต่ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ให้กับไก่เดือยทอง ก็ยิงกระจุยให้ทีมมาโดยตลอด เรียกว่าเป็นทุกอย่างให้กับทีมอย่างแท้จริง วันไหนที่สเปอร์สไม่มี เคน ในสนามก็เหมือนไก่อมโรคชัดๆ ดูได้จากช่วงที่เคนเจ็บยาวๆ ทีมก็จะผลงานไม่เปรี้ยงปร้างมากนักอย่างเช่นในตอนนี้ แถมมีข่าวลือว่าเจ้าตัวอาจจะทิ้งไก่ตัวนี้เพื่อไปหาความสำเร็จกับทีมอื่นในช่วงสิ้นฤดูกาลนี้
7. เควิน เดอ บรอยน์ (แมนซิตี้) (150 ล้านยูโร)
จอมทัพทีมชาติเบลเยี่ยมของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มมีชื่อเสียงจากการย้ายมาอยู่กับเชลซี แต่ก็ถูกปล่อยยืมไปให้กับ แวร์เดอร์ เบรเมน และ โวล์ฟบวร์ก ในบุนเดสลีกา เยอรมัน ก่อนจะเป็น เรือใบสีฟ้า ที่กระชากตัวไปร่วมทีมในฤดูกาล 2015-2016 ด้วยค่าตัวสูงถึง 74 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าสูงมากในตอนนั้น แต่จากฟอร์มที่ เดอ บรอยน์ โชว์ไว้ จนถึงในปัจจุบัน คงไม่มีใครสนใจราคาค่าตัวที่เสียไปแน่นอน ถึงขั้นมีการแซวกันว่า เชลซี เสียค่าโง่เต็มๆในการปล่อยตัวออกไปจากทีม
8. ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า) (140 ล้านยูโร)
แข้งประวัติศาสตร์คนแรกของวงการลูกหนังที่คว้ารางวัล บัลลงดอร์ได้ 6 สมัย คว้าแชมป์มาแล้วทุกรายการกับเจ้าบุญทุ่ม เรียกได้ว่าเป็นแทบทุกอย่างของทีมอย่างแท้จริง คิดอะไรไม่ออกบอกเมสซี่ เดี๋ยวเมสซี่จัดให้ จนปัจจุบันอยู่กับทีมมาถึง 16 ฤดูกาลเข้าไปแล้ว จนแฟนบอลถึงกับแซวว่า นี่แหล่ะคือคนที่ใหญ่ที่สุดในสโมสร พูดหรืออยากได้อะไร ใครๆก็ต้องฟังหรือทำตาม แถมในฤดูกาลนี้มีข่าวด้วยว่า เจ้าตัวต้องการร่วมงานกับ เนย์มาร์ อีกครั้ง ทำให้มีข่าวออกมาตลอดว่า เจ้าบุญทุ่ม กำลังระดมทุนทรัพย์ เพื่อดึงตัวสตาร์บราซิลกับมายังถิ่น คัมป์ นู อีกครั้ง
9. จาดอน ซานโช่ (ดอร์ทมุนด์) (130 ล้านยูโร)
ดาวรุ่งของเสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยึดตัวจริงได้ทันทีที่มาอยู่กับสโมสร รวมไปถึงการติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ และด้วยความที่เป็นคนอังกฤษ ทำให้ตกเป็นข่าวกับทีมในพรีเมียร์ลีกอย่างหนักในช่วงนี้ ทั้งอายุที่พึ่งจะ 19 ปี ฟอร์มในสนาม รวมไปถึงการเป็นแข้งโควต้าโฮมโกรน จึงไม่น่าแปลกใจที่ค่าตัวในการประเมินจะพุ่งสูงถึงขนาดนี้
10. อองตวน กรีซมันน์ (บาร์เซโลน่า) (120 ล้านยูโร)
ดาวเตะแชมป์ทีมชาติฝรั่งเศสวัย 28 ปี ย้ายมาร่วมทีมบาร์เซโลน่าด้วยค่าตัว 120 ล้านยูโร จากผลงานที่ฝากไว้กับ แอตเลติโก มาดริด เหล่าแฟนบอลของเจ้าบุญทุ่มคาดหวังว่าจะมาเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นที่ 3 ในแนวรุกของทีมร่วมกับ เมสซี่ และ ซัวเรส แต่ความเป็นจริงก็ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น เมื่อผลงานของเจ้าตัวยังไม่โดดเด่นเหมือนสมัยที่ทำให้กับตราหมี เรียกว่าต้องจูนอีกเยอะทีเดียวถึงจะเล่นได้เข้ากับทีมใหม่ แต่ด้วยคลาสบอลของเจ้าตัวรวมถึงบรรดาเพื่อนร่วมทีมก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี อีกไม่นานแฟนบอลคงจะได้เห็นฟอร์มเด่นๆของเจ้าตัวเหมือนเดิมอย่างแน่นอน