ข่าวที่น่าสนใจที่สุดในขณะนี้คงไม่มีอะไรเกินหน้ากลุ่มทุน “พับลิก อินเวสต์เมนต์ ฟันด์” (พีไอเอฟ) จากซาอุดีอาระเบีย ประสบความสำเร็จในการเข้าเทกโอเวอร์สโมสรนิวคาสเซิลด้วยมูลค่า 300 ล้านปอนด์ โดยจะเข้าถือหุ้นจำนวน 80 % ของสโมสร โดยผู้สนับสนุนพีไอเอฟก็คือ ปรินซ์ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน หรือมกุฎราชกุมารซาอุดิอาระเบีย ซึ่งทรงมีทรัพย์สินราว 3.2 แสนล้านปอนด์
และในขณะนี้อแมนด้า สเตฟลีย์ หนึ่งในผู้ถือหุ้นที่จะมาทำหน้าที่บริหารทีมได้เริ่มวางแผนการสร้างทีมแล้ว โดยจะเป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เปลี่ยนแปลงสต๊าฟโค้ช ปรับปรุงสนามฝึกซ้อมของสโมสร และกำลังเตรียมตั้งแฟรงก์ แม็กพาร์แลนด์ อดีตหัวหน้าแมวมองและผู้จัดการอะคาเดมีของลิเวอร์พูลเข้ามาเป็นที่ปรึกษาของสโมสรแล้ว
อีกคนที่จะดึงตัวเข้ามาอีกคนก็คือ “ราล์ฟ รังนิก” กุนซือฝีมือดีชาวเยอรมนีซึ่งคาดว่าจะเข้ามารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการด้านกีฬา โดยก่อนหน้านี้เคยผ่านการคุมทีมในบุนเดสลีกามาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็นสตุ๊ตการ์ต,ฮันโนเวอร์,ชาลเก้,ฮอฟเฟนไฮม์ และ ไลป์ซิก และปัจจุบันเป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนาของทีมโลโคโมทีฟ มอสโก ของรัสเซีย รังนิก ถือว่าได้รับการยกย่องในเยอรมนี เพราะเป็นกุนซือที่มีสไตล์ในการเล่นเกมรุกที่เร้าใจ ชื่อเสียงไม่เป็นรองเจอร์เกน คล็อปป์,โธมัส ทูเคิล หรือ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ และหากกุนซือวัย 63 ตกปากรับคำมาทำงานให้ “สาลิกาดง” ในยุคใหม่ นักเตะคนไหนที่คาดว่าจะถูกซื้อตัวมาร่วมทีมกันบ้าง มีการคาดการณ์ไว้บ้างแล้วดังนี้
1.เอมิล ฟอร์สเบิร์ก
กองหน้าทีมชาติสวีเดนสร้างผลงานโดดเด่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 และคนที่มีส่วนปลุกปั้นอย่างมากก็คือราล์ฟ รังนิก นั่นเอง เพราะคว้าตัวมาร่วมทีมไลป์ซิกเมื่อปี 2015 และตอนนี้ดาวเตะวัย 29 เป็นหนึ่งในมิดฟิลด์เชิงรุกที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุโรป ในช่วง 8 ฤดูกาลกับไลป์ซิก ฟอร์สเบิร์ก ลงเล่นไปทั้งหมด 224 นัด ยิงได้ 49 ประตู และทำอีก 57 แอสซิสต์
2.ติโม แวร์เนอร์
แวร์เนอร์ย้ายจากไลป์ซิกมาร่วมเชลซีเมื่อปี 2020 ด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ แต่ผลงานไม่เป็นที่น่าประทับใจด้วยผลงานยิง 14 ประตูจากการลงเล่น 60 เกม และคาดว่าจะกลายเป็นตัวสำรองโรเมลู ลูกากู โอกาสลงตัวจริงคงน้อยลงกว่าเดิมมาก แต่แวร์เนอร์เคยร่วมงานกับรังนิกในทีมไลป์ซิกมาก่อน และเป็นคนที่คว้ากองหน้าทีมชาติเยอรมนีมาร่วมทีมไลป์ซิก โดยซื้อมาจากสตุ๊ตการ์ตเมื่อ 5 ปีก่อนด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า แวร์เนอร์ อาจได้โอกาสย้ายทีมมานิวคาสเซิลในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเปิดรอบสองในเดือนม.ค.นี้
3.คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู
เอ็นคุนคู เป็นนักเตะเนื้อหอมอีกคนหนึ่งของยุโรป เป็นที่ต้องการของแมนฯซิตี้และเชลซีในพรีเมียร์ลีก รวมถึงเรอัล มาดริด แต่อาจได้ย้ายมาอยู่กับนิวคาสเซิลก็เป็นได้ มิดฟิลด์ตัวปั้นเกมเหลือสัญญากับไลป์ซิกอยู่ถึงปี 2024 และคาดว่าจะมีค่าตัว 40 ล้านปอนด์ ซึ่งดูจะไม่เป็นปัญหากับ “สาลิกาดง” ยุคใหม่เลยแม้แต่น้อย
4.มานูเอล นอยเออร์
แฟนบอลส่วนมากคงคิดว่านอยเออร์คงจะไม่ย้ายไปไหน และคงแขวนสตั๊ดกับบาเยิร์น มิวนิกแน่ แต่ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ “เสือใต้” ในปี 2011 นั้น เขาเคยเล่นให้กับ “ราชันสีน้ำเงิน” ชาลเก้ในยุคที่ราล์ฟ รังนิก คุมทีมมาก่อน เพราะอย่างนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
ในปีหน้านายทวารทีมชาติเยอรมนีจะมีอายุ 36 แต่ยังสามารถยืนระยะได้จนถึงอายุ 40 ปีแน่นอน
