ยูริ จอร์เกฟฟ์ ตัวรุกสัญชาติฝรั่งเศสที่ก้าวขึ้นมาเป็นตำนานแห่งประเทศ แม้ว่าเขาจะอยู่ภายใต้สตาร์ดังอย่าง ซีดาน, ตูลาม หรือ อองรีย์ ก็ตาม แต่เขาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าที่พร้อมจะฉกเอาลูกมกายิงเป็นประตูอยู่เสมอ ด้วยการครองบอลที่ยอดเยี่ยม การต่อบอลที่ไหลลื่น และยังจบสกอร์ดี อีกด้วย
ที่มาของฉายา “เดอะสเน็ก” ฉายาสร้างชื่อให้กับ ยูริ จอร์เกฟฟ์ คนนี้
ทันทีที่พูดถึงชื่อ ยูริ จอร์เกฟฟ์ แน่นอนว่าฉายา “เดอะสเน็ก” จะต้องตามมาแทบจะทันทีเลยทีเดียว ในช่วงที่เขายังหาตัวเองไม่เจอฟอร์มของเขาอยู่ในระบบธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นกองกลางหรือปีกซ้ายที่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่ แต่เมื่อเขาได้มีโอกาสเข้ามาเล่นเป็นตัวรุกหรือกองหน้า ในตอนนั้นเองผลงานของเขาดีขึ้นแลลพุ่งทะยานเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาล 1990 – 95ที่เขาเล่นให้กับ โมนาโก ไป 155 นัดและสามารถยิงได้ถึง 59 ประตู จากนั้นได้ย้ายไปลีกอิตาลี เมื่อฤดูกาล 1996 – 99 กับทีมอินเตอร์ มิลาน ได้ลงเล่นไป 87 นัด และยิงได้ถึง 30 ประตู แม้ว่า ยูริ จอร์เกฟฟ์ จะย้ายมาเล่นกับทีมเล็กในพรีเมียร์ลีก อย่าง โบลตัน วอนเดอร์เลอร์ ในฤดูกาล 2002 – 04 แต่ก็สามารถยิงได้ถึง 21 ประตูในการลงเล่น 75 นัดในตำแหน่งตัวจริงเสมอ
เรื่องง่ายของ ยูริ จอร์เกฟฟ์ แต่ยากสำหรับนักเตะคนอื่น
หากลองนั่งดูฟุตบอลในยุคก่อนการจะหาช่องยิง ช่องส่ง หรือการลากเลื้อยต่าง ๆ ดูเป็นเรื่องยากอย่างมาก เพราะในช่วงนั้นแฟนการเล่นอันเหนียวแน่นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ แต่สำหรับ ยูริ จอร์เกฟฟ์ เขาทำให้เรื่องยากเหล่านี้ให้กลายเป็นเรื่องง่ายเลยทีเดียว เขาสามารถพุ่งเข้าไปเพื่อเอาบอลมาและส่งมันเข้าสู่ประตูฝั่งตรงข้ามอย่างง่ายดาย นอกจากนั้นในช่วงที่เราเล่นเป็น second striker หรือ กองกลาง playmaker แน่นอนว่า ยูริ จอร์เกฟฟ์ สามารถต่อบอลไปหาเพื่อน ๆ กองหน้าตัวรุกคนอื่นได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน ทั้งหมดนี้เขาทำให้ทุกสิ่งดูง่ายไปหมดจนทำให้เพื่อนร่วมทีมทั้ง โบลตัน, แบล็กเบิร์น หรือแม้แต่ทีมชาติยกให้กับตัวรุกที่สุดยอดของจริง
ความสุดยอดของ ยูริ จอร์เกฟฟ์ กับทีมชาติฝรั่งเศส
อย่างที่เราทราบกันดีว่าในฟุตบอลโลก 1998 ฝรั่งเศสได้เป็นเจ้าภาพ แต่หลายคนจะทราบหรือไม่ว่า ยูริ จอร์เกฟฟ์ ถือว่าเป็นหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่พาทีม “ตราไก่” คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกนี้มาได้ แถมยังพาทีมไปคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร ในปี 2000 อีกด้วย รวมลงแข่งให้นามทีมชาติฝรั่งเศสไปถึง 82 นัดแถมยังยิงได้ถึง 28 ประตูรวมทุกรายการอีกด้วย หลังจากนั้นในปี 2006 เขาก็ได้ประกาศอำลาวงการนักเตะลง