1.“Mascot” น่าจะเกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 ในประเทศฝรั่งเศสโดยมาจากคำว่า “Mascoto” ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า แม่มด, เทพธิดา หรือ หมอผี” และก่อให้เกิดคำว่า “Mascotte” ที่หมายถึงเครื่องรางของหมอผี โดยในช่วงแรกใช้เพื่ออวยพรให้กับนักพนักจงโชคดี ต่อมาในปี 1880 มีการแสดงละครโอเปร่าในประเทศฝรั่งเศส ชื่อเรื่องว่า “La Mascotte” ซึ่งมีเนื้อหาว่า เกษตรกรชาวอิตาเลี่ยนที่เพาะปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น จนกระทั่งได้พบกับหญิงสาวแปลกหน้านามว่า Bettina ที่เข้ามาช่วยเหลือและทำให้พืชผลของเขางอกงาม ด้วยเหตุนี้ Bettina จึงถือว่าเป็น ตัว Mascotte ที่นำเอาโชคลาภ และสิ่งดีๆ มาให้ จากนั้น คำนี้ก็ถูกนำเข้ามาใช้ในวงการกีฬา มีความหมายสื่อถึงการอวยพรให้โชคดี จากนั้นคำว่า Mascotte ก็ถูกใช้บ่อยๆ จนถูกตัดทอนตัวอักษรให้สั้นลง เหลือแค่ Mascot หลังจากนั้นก็แพร่หลายไปยังวงการต่างๆ ทั้งบริษัท แบรนด์สินค้า การจัดงานต่างๆ ล้วนจะต้องมี
การทำตัว Mascot ขึ้นมาไว้เป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี
2.ในฟุตบอลโลก เริ่มมีการใช้ตัว มาสคอต ครั้งแรกในฟุตบอลโลกปี 1966 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ และก็มีเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตัวมาสคอตในแต่ละทัวร์นาเม้น ก็จะมีการตั้งชื่อให้ด้วย
3.ตัวมาสคอตในแต่ละครั้ง ก็จะมีการออกแบบเพื่อให้เป็นที่จดจำและสื่อถึงประเทศเจ้าภาพ บ้างก็ใช้ตัวคนที่เป็นการ์ตูน บ้างก็ใช้เป็นสัตว์ สีสันลวดลายก็เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย
4.ลองมาดูกันว่า มาสคอต 14 ตัวของการแข่งขันฟุตบอลโลก ตั้งแต่ตัวแรกจนถึงตัวล่าสุดมีชื่ออะไรกันบ้าง
1966 – Wille (วิลลี่)
1970 – Juannito (ฮวนนิโต้)
1974 – Tip and Tap (ทิป แอนด์ แท๊ป)
1978 – Gauchito (เกาชิโต้)
1982 – Naranjito (นารานฆิโต้)
1986 – Pique (ปีเก้)
1990 – Ciao (เชา)
1994 – Striker (สไตรเกอร์)
1998 – Footix (ฟูติกซ์)
2002 – Ato Kaz and Nik (อาโต้, คาซ แอนด์ นิค)
2006 – Goleo VI and Pille (โกเลโอ้ เดอะ ซิกส์)
2010 – Zakumi (ซาคูมิ)
2014 – Fuleco (ฟูเลโค่)
2018 – Zabivaka (ซาบิวาก้า)
5.มาสคอต นอกจากจะเป็นตัวนำโชคของการแข่งขันแล้ว ในรูปของสินค้าเช่นตุ๊กตา ธง ภาพถ่าย สติ๊กเกอร์ ฯลฯ ยังถือเป็นสินค้าขายดีและเป็นของสะสม ให้กับแฟนบอลซื้อเก็บไว้เป็นของที่ระลึก เพื่อให้นึกย้อนถึงบรรยากาศการแข่งขันของทัวร์นาเม้นนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี