แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะกลับลงสนามใน ศึก พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง วันที่ 19 มิถุนายน และ ถือเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับ ปอล ป็อกบา กับเพื่อนร่วมทีมของเขาอีกแปดคน ที่ต้องแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่มากพอจะคู่ควรให้อยู่ในทัพปิศาจแดง
ประเดิมที่คนแรกกับนักเตะที่ถูกสบประมาทมากที่สุดคนหนึ่งของยูไนเต็ด
เจสซี ลินการ์ด
ปีนี้มันแย่มากสำหรับเขา แล้วเรื่องราวต่างๆก็ นำไปสู่การคาดการณ์ถึงอนาคตที่ยังไม่แน่นอนของ ลินการ์ด ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด กองกลางวัย 27 ปี ได้รับโอกาสลงสนามเป็นครั้งคราวในฤดูกาลนี้ แต่ยังไม่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเลย นับตั้งแต่ช่วงปีใหม่
“คุณรู้มั้ย ผมอยากกลับไปฟิตให้ได้มากกว่านี้ เฉียบคมให้เหนือกว่าฤดูกาลที่แล้ว เพื่อพร้อมลงเล่นทุกเกม” ลินการ์ด กล่าวไว้เมื่อเดือนที่ผ่านมา
“ผมลืมเรื่องเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาไปแล้ว พวกเราต้องเดินหน้าต่อ และถึงแม้ฤดูกาลนี้ยังไม่จบ แต่ผมกลับรู้สึกได้ถึงการเริ่มต้นครั้งใหม่”
“ช่วงเวลาในฤดูกาลที่เหลืออยู่ จะเป็นการแข่งขันเล็กๆสำหรับผม ตอนนี้ผมรู้สึกดีขึ้น และต้องเดินหน้าต่อเพื่อเตรียมตัวไปสู่ฤดูกาลถัดไป”
อย่างไรก็ตาม เขาต้องสร้างความแตกต่างให้ได้ใน 9 นัด ที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้ ไม่อย่างนั้นก็อาจโดนปล่อยตัวออกไปจากทีม
ปอล ป็อกบา
ฤดูกาลนี้ เขาต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บที่ยาวนาน ซึ่งทำให้ได้ลงเล่นเพียง 8 นัด ในการแข่งขังทุกรายการ
แฟนๆต่างตื่นเต้นที่จะได้เห็น ป็อกบา ลงเล่นร่วมกับ บรูโน แฟร์นานเดส ในแผงมิดฟิลด์
แต่อนาคตของเขาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่เสมอ ว่าควรปล่อยตัวหรือเก็บไว้ใช้งาน และ ยูไนเต็ด ก็ดูจะเป็นทีมเวิร์คมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เมื่อเขาไม่ได้ลงสนาม
เอ็กเซล ทวนเซเบ้
เช่นเดียวกับ ป็อกบา เขาประสบปัญหาอาการบาดเจ็บในฤดูกาลนี้ ครั้งแรกคือ เจ็บสะโพก แล้วก็ตามมมาด้วย แฮมสตริง ส่งผลให้เขาได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่เพียง 10 นัดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม กองหลังวัย 22 ปี ได้เข้ามาอยู่ในม้านั่งสำรองสองนัดก่อนที่การแข่งขันจะถูกยุติลงชั่วคราว และมีความหวังว่าเขาจะฟิตพร้อมกลับมาลงสนามอีกครั้งใน 9 นัดที่เหลืออยู่
กฎใหม่ที่สามารถเปลี่ยนตัวสำรองได้ 5 คน ในพรีเมียร์ลีก อาจช่วยให้เขามีโอกาสได้ลงสนามมากขึ้น
อันเดรียส เปเรร่า
การมาถึงของ บรูโน แฟร์นานเดส ในเดืนอมกราคม ทำให้โอกาสลงสนามของ เปเรร่า ลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ
เขายิงได้ 2 ประตู และ ทำ 4 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 37 นัด ทุกรายการในฤดูกาลนี้ (เรียกได้ว่าโคตรห่วย) แต่พอเป็นบรูโน่ปุ๊ป ผลงานทีมก็ดีขึ้นอย่างทันตาเห็นภายใน 9 นัดเท่านั้น
สุดท้ายก็กลายเป็นตัวเลือก มิดฟิลด์ ลำดับที่ 5-6 ในทีมชุดใหญ่ จนเรียกได้ว่าแทบจะหมดความสำคัญ ทั้งๆที่ก่อนหน้าได้โอกาสมากมาย แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ (ทำตัวเองล้วนๆ)
เอริค ไบญี
ถึงแม้ก่อนหน้านี้ เขาจะกลายเป็นตัวเลือกรองไปจาก วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ และไม่ได้เป็นพาร์ทเนอร์อันดับหนึ่งของ แฮร์รี แม็คไกวร์
แต่ไบญี ก็ได้โชวว์ศักยภาพของเขาให้แฟนๆได้เห็นแล้วในเกมที่แมนฯยูชนะเชลซี บนเวทีพรีเมียร์ลีก
สิ่งเดียวที่ทำให้เขายังไม่ได้เป็นตัวหลักของทีมอาจเป็นเรื่องของความสม่ำเสมอในการได้ลงสนาม รวมถึงอาการบาดเจ็บที่รบกวนมาอย่างยาวนาน
ดิโอโก้ ดาโลต์
ปัญหาความฟิตเล่นงานกองหลังชาวโปรตุกีสรายนี้ทำให้ไม่ได้ลงสนาม และแน่นอนแล้วว่า ตำแหน่งแบ็คขวา ยังไงก็เป็น วาน บิสซาก้า ที่มาเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง
ถึงแม้จะพูดได้ว่าอายุของ ดาโลต์ ยังน้อยกว่า วาน บิสซาก้า แต่มันก็ยากเหลือเกินที่จะหาตำแหน่งให้เขาลง ถ้าตัวนักเตะไม่ปรับเปลี่ยนตำแหน่งการเล่น
แต่ดาวรุ่งรายนี้ได้ออกมาพูดและแสดงจุดยืนชัดเจนแล้วว่า เขาต้องการลงเล่นกับยูไนเต็ด ในฐานะแบ็คขวาเท่านั้น
อังเคล โกเมส
เขาเป็นนักเตะอาชีพเพียงคนเดียวของยูไนเต็ด ที่สัญญาจะหมดลงในซัมเมอร์นี้ โกเมสยังคงรู้สึกไม่มั่นใจว่าจะได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของยูไนเต็ด และนั่นเป็นเหตุผลให้เขาอาจย้ายทีม
เขาถูกจับตาดูมาตั้งแต่สมัยอยู่อะคาเดมี และถูกตั้งความหวังเอาไว้ค่อนข้างสูง แต่น่าเสียดายที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ในระดับอาชีพซักที
ฟิล โจนส์
เขากลายเป็นตัวตลกในสายตาแฟนบอลทั่วโลก ซึ่งจริงๆก็ไม่สมควร ถูกบูลลีขนาดนี้
โจนส์ ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ใครหลายคนบอก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เขาเหมาะสมสำหรับยูไนเต็ด ศักภาพของเขาในปัจจุบันนั้นยังไม่เพียงพอ และมันคงน่าแปลกใจหากกองหลังรายนี้ได้กลับมาอยู่ในทีม 11 ตัวจริง
ทิโมธี โฟซู เมนซาห์
ล่าสุดพึ่งได้รับการต่อสัญญาจากสโมสรไปจนถึปีง 2021 แต่ดูเหมือนนั่นจะเป็นเพียงการเรียกมูลค่าเพิ่มในตัวกองหลังรายนี้ หากมีทีมอื่นสนใจซื้อตัวเขาไปใช้งาน
โฟซู เมนซาห์ สร้างความประทับใจได้ในยุค หลุยส์ ฟาน กัล เมื่อปี 2016 และถึงแม้จะเคยได้โอกาสลงเล่นใน เอฟเอ คัพ รอบ เซมิ ไฟนอล เมื่อฤดูกาลนั้น แต่ดูเหมือนนั่นจะเป็นฟอร์มที่ดีที่สุดของเขา กับ แมนฯยูไนเต็ด (หลังจากนั้นก็ฟอร์มบู่มาตลอด)
