กองหน้าดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดแห่งเกาะอังกฤษตอนนี้ คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เมสัน กรีนวูด วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้นกันหน่อยดีกว่า ว่าตั้งแต่เด็ก เส้นทางการค้าแข้งของเขาเป็นยังไงกันบ้าง
ตั้งแต่เด็ก ครอบครัวสนับสนุนให้เขาเล่นฟุตบอลมาโดยตลอดซึ่งก็เป็นคุณพ่อ แอนดรูว์ ที่ยอมสละเวลาหลายชั่วโมงในแต่ละวัน เพื่อฝึกซ้อมฟุตบอลให้เจ้ากรีนวูดตัวน้อย แถมคุณพ่อก็ยังคำนึงถึงเรื่องความฟิตของร่างกาย มีการจับเวลาในการวิ่งสปีดอยู่เสมอเพื่อเช็คสมรรถภาพ นอกจากนี้คุณพ่อยังพาเขาไปที่สนาม ฮอร์สฟอลล์ สเตเดี้ยม เพื่อซ้อมเบสิคฟุตบอลกับ แบรดฟอร์ด ซิตี้ เอเอฟซี ทีมในถิ่นบ้านเกิด และนี่ก็คือคำบอกเล่าของเพื่อนบ้านวัย 62 ปี ถึงความคลั่งใคล้ในฟุตบอลของเจ้าหนูกรีนวูด
“ผมไม่เห็นเขาห่างจากลูกฟุตบอลเลย เขาไปที่ไหนก็ต้องพกมันไปด้วยเสมอ”
“ถ้าไม่ได้ใส่ชุดนักเรียน เขาจะใส่เสื้อแมนฯยู เขาเป็นเด็กขี้อายนะ แต่ก็สุภาพ ถึงจะเป็นเด็กเขาก็วิ่งเร็วมาก พวกเราทุกคนรู้ดีว่าเขาจะประสบความสำเร็จในเส้นทางลูกหนังแน่นอน”
แล้วเชื่อมั้ยครับว่า ที่พูดมานี่คือเจ้าหนูกรีนวูดวัย 5 ขวบ เพียงเท่านั้น คุณพ่อมุ่งมั่นในการปลุกปั้นลูกชายคนนี้มาก ตระเวนพาไปซ้อมแล้วก็ชมการแข่งขันฟุตบอลตามที่ต่างๆจนสุดท้ายก็ไปลงเอยที่สโมสร ไอเดิ้ล จูเนียร์ เอฟซี ซึ่งอยู่แถบแบรดฟอร์ดโดยมี พอล นิวส์แฮม เป็นโค้ช แต่ก็ต้องรอไปก่อน จนกว่าจะถึง 6 ขวบ ตามกฎของสโมสร จึงจะส่งลงสนามไปคัดตัวได้ ซึ่งเกมแรกเขาก็ถล่มไป 10 ประตู จนทุกคนที่ได้ดูถึงกับตาค้าง และนี่คือ คำพูดจากโค้ชในวัยเด็กของเขา “ครอบครัวของกรีนวูดพาเขามาชมเกมตลอด แต่ก็ต้องรอไปก่อนจนกว่าจะถึง 6 ขวบ ถึงจะได้ลงสนาม แล้วพอได้ลงนัดแรก เขาก็ยิงไปถึง 10 ประตู ตลอดเวลาที่ได้ลงสนาม เขายิงได้เสมอ ในตอนนั้นคุณอาจยังมองไม่ออกว่าเด็กคนนี้จะพัฒนาไปไกลได้แค่ไหน แต่เขามีคุณสมบัติครบทุกอย่าง แถมยังวิ่งเร็วเป็นกรดเลย”
แล้วสุดท้ายก็เป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ติดต่อ กรีนวูดเข้าไปซ้อมที่ ฮาลิแฟกซ์ ศูนย์เยาวชนในเวสต์ ยอร์ค และที่นั่น กรีนวูดก็ไม่ทำให้บรรดาโค้ชต้องผิดหวัง เขามักจะมาก่อนเวลาราว 10 นาที และซ้อมบอลให้เล่นได้สองเท้าในการยิงบอลอัดถังขยะบริเวณด้านนอกประตูรั้ว และไม่น่าเชื่อว่าตอน 7 ขวบ โซลชาเคยถ่ายรูปกับกรีนวูด ที่เดอะคลิฟฟ์ สนามฝึกซ้อมของซัลฟอร์ดด้วย ซึ่งตอนนั้น กุนซือชาวนอร์เวย์ทำงานเป็นโค้ชทีมสำรอง “ตอนนั้นผมขอกรีนวูดถ่ายรูป เพราะรู้เลยว่าเขาจะโตขึ้นมาเป็นนักเตะอาชีพได้แน่นอน” โซลชากล่าว
สุดท้ายกรีนวูดและครอบครัวของเขาก็ต้องย้ายมาที่เมืองแมนเชสเตอร์ จากนั้นเขาก็พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด ถล่มประตูจนได้เป็นดาวซัลโวในรุ่น ยู18 ในรายการพรีเมียร์ลีก นอร์ธ และคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ หลังทีมสามารถคว้าถ้วย “ไอซีจีที” (ICGT) ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์ จากการเอาชนะ เรอัล มาดริด หลังจากนั้นโอกาสก็มาถึง เมื่อปี 2018 มูรินโญ่เห็นแวว และใส่ชื่อกรีนวูดลงในชุดทีมที่ไปทัวร์อเมริกา จากความมุ่งมั่นของกรีนวูดในวัยเพียง 16 ปี / จากนั้นไม่นานเขาก็ได้สัญญากึ่งอาชีพฉบับแรก ค่าเหนื่อย 800 ปอนด์ จนสุดท้ายก็อัพขึ้นมาเป็น 1.5 หมื่นปอนด์ ต่อสัปดาห์เมื่อเดือนตุลาคมจากการต่อสัญญาฉบับใหม่ในยุคของโซลชา และกรีนวูดก็ยังไม่ลืมที่จะขอบคุณครอบครัว ซึ่งส่งเสริมให้เขาเล่นฟุตบอลมาโดยตลอด “ที่บ้านช่วยเหลือผมมาโดยตลอด ตอนที่ผมหมดกำลังใจ พ่อและแม่จะคอยผลักดันผมอยู่เสมอ บอกว่าอย่ายอมแพ้ ดังนั้นผมเลยจะคิดถึงพวกเขา เวลาลงสนาม และตั้งใจเล่นฟุตบอลเพื่อตอบแทนสิ่งที่ได้รับมาทั้งหมด”
ขอแถมให้ซักนิดถึงเรื่องนอกสนามของกรีนวูด ถึงแม้ช่วงที่ผ่านมาเขาได้คบหากับ แฮร์เรียต ร็อบสัน นางแบบวัย19 ปี แต่ปัจจุบัน ทั้งคู่ต่างเลิกรากันไปเป็นที่เรียบร้อย ในช่วงล็อคดาวน์โควิด 19 ซึ่งฝ่ายหญิงก็เปิดใจกับแฟนคลับในอินสตาแกรมของเธอว่าไม่ได้คบกับกรีนวูดแล้ว หลังคบกันมา 15 เดือน และยืนยันว่าไม่มีใครเข้ามาแทรกในความวสัมพันธ์ ซึ่งหลังจากเลิกรากันไป ต่างคนก็ต่างลบรูปคู่ในไอจีออกทั้งหมด และแน่นอนแล้วว่า เจ้าหนูกรีนวูดได้กลับมาโสดอีกครั้ง