หลายต่อหลายคนที่ได้ทำหน้าที่นี้มักลงเอยด้วยการ “ย้าย” ออกจากทีมด้วยเหตุผลต่างๆ นานา หรือไม่ก็เผชิญหน้าอาการบาดเจ็บซ้ำซากแทบไม่ได้ลงสนาม
ปาทริค วิเอร่า, เธียร์รี่ อองรี, วิลเลี่ยม กัลลาส, เชส ฟาเบรกาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, มิเกล อาร์เตต้า, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ฯลฯ หรือกรณีของ กรานิต ชาคา ก็เคยมีเรื่องราวบาดหมางกับแฟนบอลจนถูกริบปลอกแขนกัปตันทีม อนาคตดับวูบจนเกือบได้ย้ายออกไปอีกเช่นกันหากไม่เจอจุดเปลี่ยนหลังการมาของ มิเกล อาร์เตต้า
เท่าที่นึกออก โทนี่ อดัมส์ น่าจะเป็นกัปตันทีมคนสุดท้ายที่ยืนหยัดทำหน้าที่สุดสำคัญนี้จนกระทั่งแขวนสตั๊ดด้วยการลงเล่นให้ อาร์เซน่อล เพียงทีมเดียว แต่นั่นก็นานนับสองทศวรรษแล้ว
การต่อสัญญาของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง จึงเป็นยิ่งกว่าข่าวดีเพราะนี่ไม่ใช่เพียงการรั้งนักเตะคนนึงเอาไว้ในทีม แต่เป็น “กัปตันทีม” ที่อยู่ในช่วงฟอร์มดีสุดของอาชีพ
หลายปีแล้วที่แฟนบอลปืนใหญ่ไม่ได้เห็นนักเตะที่เป็นความหวังสูงสุดตัดสินใจฝากอนาคตเอาไว้กับทีม สิ่งที่เห็นคือกัปตันทีมคนแล้วคนเล่าเดินออกจากสโมสร
โอบาเมย็อง มีโอกาสได้แชมป์และค่าเหนื่อยมากกว่านี้หากย้ายไปทีมอื่น แต่เขาเลือกอยู่ต่อทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าต้องออกแรงแบกทีมอย่างหนักแน่นอนด้วยศักยภาพที่ยังเป็นรองหลายทีมใหญ่ ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะอยู่จนครบ 3 ปีตามสัญญาใหม่ที่เซ็นหรือไม่ แต่อย่างน้อยเขาทำให้เห็นแล้วว่า “พร้อมอยู่” และพร้อมก้าวไปข้างหน้าร่วมกับทุกคนในทีม
โอบา ให้ความ “เชื่อมั่น” กับสโมสรและให้ “ใจ” แฟนบอลด้วยการต่อสัญญา
ต่อจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสโมสรโดยเฉพาะผู้บริหารที่ต้องสนับสนุนกัปตันทีมคนนี้ให้มากยิ่งขึ้นและไม่ทำให้ความเชื่อมั่นที่เขามอบให้ต้องสูญเปล่า
ได้เวลาที่ทุกคนต้องเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันอีกครั้ง
ขอบคุณจากใจจริง “โอบา”