ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 หรือ ยูโร 2020 จะเริ่มการแข่งขันในวันที่ 12 มิถุนายน 2020 ถึงวันที่ 12 กรกฎาคม 2020 โดยมีจำนวนทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 24 ทีม แต่ในตอนนี้ ได้สมาชิกมาแล้ว 20 ทีม ขาดอยู่อีก 4 ทีม ซึ่งจะต้องแข่งขันกันทั้งหมด 16 ประเทศ เพื่อหาตัวแทนให้ครบ
โดยโควต้าเพลย์ออฟ จะแบ่งเป็น 4 สาย สายล่ะ 4 ทีม ทำการแข่งขันแบบแพ้คัดออก แล้วเอาผู้ชนะของแต่ละสายนั้นไปเล่นในรอบสุดท้าย ซึ่งผลการจับสลากยูโร 2020 รอบเพลย์ออฟ มีดังนี้
สาย A
ไอซ์แลนด์ – โรมาเนีย
บัลแกเรีย – ฮังการี*
สาย B
บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา – ไอร์แลนด์เหนือ*
สโลวาเกีย – ไอร์แลนด์
สาย C
สก็อตแลนด์ – อิสราเอล
นอร์เวย์ – เซอร์เบีย*
สาย D
จอร์เจีย – เบลารุส*
มาซิโดเนีย – โคโซโว
(* ผู้ชนะของคู่นั้นจะเป็นเจ้าบ้านในนัดชิง)
และนี่คือสรุปผลการจับสลาก แบ่งกลุ่ม ฟุตบอล ยูโร 2020 รอบสุดท้าย
กลุ่ม เอ : อิตาลี, สวิตเซอร์แลนด์, ตุรกี, เวลส์
กลุ่ม บี : เบลเยียม, รัสเซีย, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์
กลุ่ม ซี : ยูเครน, ฮอลแลนด์, ออสเตรีย, (ทีมชนะเพลย์ออฟ สาย ดี)
กลุ่ม ดี : อังกฤษ, โครเอเชีย, สาธารณรัฐเช็ก, (ทีมชนะเพลย์ออฟ สาย ซี)
กลุ่ม อี : สเปน, โปแลนด์, สวีเดน, (ทีมชนะเพลย์ออฟ สาย บี)
กลุ่ม เอฟ : เยอรมนี, ฝรั่งเศส, โปรตุเกส, (ทีมชนะเพลย์ออฟ สาย เอ)
จากผลการจับสลากกลุ่มที่ได้รับการยกว่าเป็น “กรุ็ป ออฟ เดธ” จะเป็นกลุ่มไหนไปไม่ได้นอกจาก “กลุ่มเอฟ” ที่มีทั้ง เยอรมนี แชมป์ 3 สมัย , ฝรั่งเศส แชมป์ 2 สมัย และ โปรตุเกส แชมป์เก่าครั้งล่าสุด
ส่วนที่ดูจะเป็นการถูกพูดถึงกันมากที่สุดใน ยูโร 2020 ครั้งนี้ก็คือ การมีเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขันเป็นจำนวนถึง 12 ประเทศเจ้าภาพ 12 สนาม ซึ่งถือเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 60 ปี ของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
- เวมบลีย์ เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีความจุ 90,000 ที่นั่ง
- อัลลิอันซ์ อารีนา เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี มีความจุ 75,000 ที่นั่ง
- สตาดิโอ โอลิมปิโก เมืองโรม ประเทศอิตาลี มีความจุ 72,698 ที่นั่ง
- โอลิมปิก สเตเดี้ยม เมืองบากุ ประเทศอาเซอร์ไบจาน มีความจุ 68,700 ที่นั่ง
- เครสตอฟสกี้ สเตเดี้ยม เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย มีความจุ 68,134 ที่นั่ง
- ปุสกัส อารีนา เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี มีความจุ 67,889 ที่นั่ง
- อารีนา เนชันนาลา เมืองบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย มีความจุ 55,600 ที่นั่ง
- โยฮัน ครัฟฟ์ อารีนา เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีความจุ 54,990 ที่นั่ง
- ซาน มาเมส เมืองบิลเบา ประเทศสเปน มีความจุ 53,332 ที่นั่ง
- แฮมป์เดน พาร์ค เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ มีความจุ 52,063 ที่นั่ง
- อวีวา สเตเดี้ยม เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ มีความจุ 51,700 ที่นั่ง
- พาร์เคน สเตเดี้ยม เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก มีความจุ 38,065 ที่นั่ง
ทั้งนี้ สตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม จะถูกใช้เป็นสังเวียนเปิดสนามในคู่ของ ตุรกี พบกับ อิตาลี วันที่ 12 มิถุนายน 2020 ส่วนนัดชิงชนะเลิศ จะเล่นกันที่ เวมบลีย์ ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2020