ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรของ เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลาลีก้า สเปน ได้ออกมาประกาศย้ำชัดว่า การเปิดศึก ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก คือการช่วยวงการฟุตบอลและยังเชื่ออีกว่านักเตะที่ลงเล่นรายการนี้จะไม่ถูกตัดสิทธิ์จากทีมชาติ
โดยก่อนหน้านี้ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า การตั้งซูเปอร์ลีกจาก 12 สโมสรดัง ก็คือ ยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี, ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์, อาร์เซนอล, เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และ แอตเลติโก้ มาดริด จะเป็นการทำลายวงการฟุตบอล และหลายฝ่ายมองว่าเป็นเพียงผลประโยชน์ทางการเงินของทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรปเหล่านี้เท่านั้น
ทั้งนี้ อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ยังขู่ว่า ”นักเตะที่ลงล่นในรายการ ซูเปอร์ลีก จะถูกแบนห้ามลงแข่งขันในระดับนานาชาติ และ ฟุตบอลโลก”
เปเรซ ซึ่งเป็นประธานคนแรกของ ยูโรเปี้ยนส์ ซูเปอร์ลีก ได้ออกมาเผยเรื่องนี้ว่า “ถ้านักเตะที่เข้าร่วม ยูโรเปี้ยนส์ ซูเปอร์ลีก ถูกห้ามไม่ให้เล่นฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ เราจะสร้างฟุตบอลโลกของเราเองขึ้นมา มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ๆ พวกเขาจะไม่มีวันโดนแบนเพราะการลงเล่นใน ซูเปอร์ลีก หรอก มีกฎหมายคุ้มครองเราอยู่ มันเป็นไปไม่ได้”
”แต่สิ่งที่เรากำลังทำ มันเป็นการช่วยวงการฟุตบอลทางหนึ่ง ฟุตบอลกำลังเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 20 ปี เรากำลังสู้เพื่ออนาคตของโลกฟุตบอล มันมีบางคนที่ไม่จริงจังในการทำเรื่องพวกนี้ เราจะช่วยเหลือฟุตบอลในทุกระดับ”