“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก คว้าถาดแชมป์บุนเดสลีกาฤดูกาล 2020-21 ไปครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และฉลองการคว้าแชมป์ด้วยการไล่ถล่มโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัก ขาดลอย 6-0 ประตู การคว้าแชมป์ฤดูกาลนี้ทำให้ “เสือใต้” คว้าแชมป์บุนเดสลีกาเป็นสมัยที่ 9 ติดต่อกัน และเป็นการคว้าแชมป์รวมทั้งหมดถึง 31 สมัย ดังนี้
ฤดูกาล 1932, 1968–69, 1971–72, 1972–73, 1973–74, 1979–80, 1980–81, 1984–85, 1985–86, 1986–87, 1988–89, 1989–90, 1993–94, 1996–97, 1998–99, 1999–2000, 2000–01, 2002–03, 2004–05, 2005–06, 2007–08, 2009–10, 2012–13, 2013–14, 2014–15, 2015–16, 2016–17, 2017–18, 2018–19, 2019–20, 2020-2021
คราวนี้มาดูสิว่าจุดแข็งของบาเยิร์น มิวนิก คืออะไรบ้าง จึงสามารถรักษาฟอร์มอันยอดเยี่ยมไว้ได้ในฤดูกาลนี้
1.โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
ต้องยอมรับว่าหัวหอกชาวโปแลนด์คือเครื่องจักรถล่มประตูที่หาใครเทียบได้ยาก ฤดูกาลนี้เขาลงเล่นในบุนเดสลีกาไป 25 นัด ยิงไปแล้ว 35 ประตู ความจริงแล้วควรจะทำได้ดีกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่เพราะมีอาการบาดเจ็บจึงพลาดการลงเล่นไป 4 นัดติดต่อกัน แต่เมื่อหายบาดเจ็บกลับมาเล่นใน 2 นัดล่าสุดก็ยิงไปได้อีก 4 ประตู ทำให้ฤดูกาลนี้ยิงไปแล้ว 39 ประตู และต้องการยิงอีกสองประตูก็จะทำลายสถิติสูงสุดที่เกิร์ด มุลเลอร์ ยอดดาวยิงในตำนานทำไว้ 40 ประตู โดยมีอีกสองเกมที่รออยู่คือเจอกับไฟร์บวร์ก และ เอาส์บวร์ก แม้แต่มิโรสลาฟ โคลเซ่ ดาวยิงในตำนานของทีมชาติเยอรมนีก็บอกว่า เลวานดอฟสกี้ คือดาวยิงที่ครบเครื่องมากที่สุด และดีกว่าเขาเป็นสิบเท่า
ต้องยอมรับว่าหัวหอกชาวโปแลนด์คือเครื่องจักรถล่มประตูที่หาใครเทียบได้ยาก ฤดูกาลนี้เขาลงเล่นในบุนเดสลีกาไป 25 นัด ยิงไปแล้ว 35 ประตู ความจริงแล้วควรจะทำได้ดีกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่เพราะมีอาการบาดเจ็บจึงพลาดการลงเล่นไป 4 นัดติดต่อกัน แต่เมื่อหายบาดเจ็บกลับมาเล่นใน 2 นัดล่าสุดก็ยิงไปได้อีก 4 ประตู ทำให้ฤดูกาลนี้ยิงไปแล้ว 39 ประตู และต้องการยิงอีกสองประตูก็จะทำลายสถิติสูงสุดที่เกิร์ด มุลเลอร์ ยอดดาวยิงในตำนานทำไว้ 40 ประตู โดยมีอีกสองเกมที่รออยู่คือเจอกับไฟร์บวร์ก และ เอาส์บวร์ก
2.โธมัส มุลเลอร์
ส่วนหนึ่งที่ทำให้เลวานดอฟสกี้ ยิงประตูได้อย่างต่อเนื่องนั้น ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเกิดจากการแอสซิสต์ที่ยอดเยี่ยมของโธมัส มุลเลอร์ นับเฉพาะผลงานในบุนเดสลีกาเขามีผลงานทำไปแล้ว 11 ประตูจากการลงเล่น 30 นัด และทำได้ถึง 19 แอสซิสต์ มุลเลอร์ ศิลปินลูกหนังของ “เสือใต้” ติดโผดาวยิงสูงสุดมา 5 ฤดูกาลแล้ว และติดอันดับจอมแอสซิสต์สูงสุดเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน และทำสถิติได้แชมป์บุนเดสลีกาถึงสิบสมัย
3.มานูเอล นอยเออร์
นอกจากจะมีแนวรุกที่เฉียบคมแล้ว จุดแข็งของบาเยิร์น มิวนิก ยังอยู่ที่ตำแหน่งด่านสุดท้ายของทีม มานูเอล นอยเออร์ ป้องกันประตูสำคัญให้ทีมมากมาย และยังเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดของโลกในขณะนี้ นอยเออร์ ทำสถิติเป็นผู้รักษาประตูที่ลงเล่นในบุนเดสลีกาเกิน 100 นัด (หรือมากกว่า) ที่มีสถิติเสียประตู (365 ประตู) น้อยกว่าจำนวนเกมที่ลงเล่น (436 นัด)
4.โจชัว คิมมิช
คิมมิช สร้างชื่อจากตำแหน่งแบ็กขวาก่อนจะกลายมาเป็นกองกลางที่เล่นได้ครบเครื่องที่สุด ดาวเตะวัย 26 เป็นจอมแอสซิสต์ของทีมรองจากมุลเลอร์ และเป็นจอมผ่านบอลที่แม่นยำเป็นอันดับสองรองจากเจอโรม บัวเต็ง และมีความสำคัญต่อทีมอย่างมาก หาก “เสือใต้” ลงเล่นโดยไม่มีเขา อัตราทำคะแนนเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1.80 แต่ถ้าคิมมิชลงสนาม อัตราทำคะแนนเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2.54 ฤดูกาลนี้ กองกลางวัย 25 ยิงไป 3 ประตู และทำ 10 แอสซิสต์ มีสถิติครองบอลและวิ่งทำระยะทางได้มากที่สุดมากกว่าทุกคนในทีม นอกจากนั้นเป็นคนเปิดบอลจากลูกเตะมุมให้เพื่อนทำประตูได้มากเป็นอันดับสองในลีก รวมถึงยิงประตูเข้าเป้ามากเป็นอันดับสองของบาเยิร์น
5.ลีออน โกเร็ตซ์กา
อีกคนที่ทำหน้าเสมือนปิดทองหลังพระในทีม “เสือใต้” ก็คือ โกเร็ตซ์กา เป็นมิดฟิลด์ที่มีส่วนทั้งรุกและรับ เขาทำได้ 5 ประตูกับอีก 7 แอสซิสต์ มีสถิติเอาชนะในการแย่งบอลคิดเป็น 58 เปอร์เซนต์