กับเกมการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก นัดที่ 38 ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของ ลีกอังกฤษ และแน่นอนว่าสโมสร “ เรือใบสีฟ้า ” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พวกเขาคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ ก็ชูถ้วยแชมป์อย่างสมเกียรติ หลังจากที่สามารถเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ได้ 5 – 0 และ แน่นอนว่า ความตื่นเต้นและสนุก ก็คงจะอยู่ที่การแย่งชิงพื้นที่เพื่อไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า ซึ่ง “ จิ้งจอกสยาม ” เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องการชัยชนะในนัดสุดท้ายเท่านั้น บวกกับสถานการณ์ที่ต้องรอลุ้นอีกทีมอย่าง เชลซี ที่พวกเขาจะต้องพบกับ แอสตัน วิลลา และแน่นอนว่า เชลซี พ่ายให้กับ “ ขุนค้อน ” 1 – 2 แต่ถ้าว่า “ จิ้งจอกสยาม ” เลสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาก็พลาดท่าพ่ายให้กับ “ ไก่เดือยทอง ” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส 4 – 2 เช่นเดียวกัน
เรียกได้ว่าสถานการณ์ของ เลสเตอร์ซิตี้ พวกเขามีลุ้นเพื่อที่จะไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าสูงเป็นอย่างมาก ถ้าหากว่าสามารถเก็บชัยชนะ และมี 3 แต้ม ในนัดที่ 38 ที่พวกเขาเปิดบ้านต้อนรับ “ ไก่เดือยทอง ” เพราะอีก 1 คู่อย่าง เชลซี ที่พวกเขาพบกับ แอสตัน วิลล่า สถานการณ์ของ “ สิงโตน้ำเงินคราม ” ก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะเหล่าบรรดาลูกทีมของ ทูเคิล ค่อนข้างที่จะไม่พร้อมหน้าพร้อมตาที่จะลงสนาม หลังจากที่ ทูเคิล ต้องการที่จะเก็บนักเตะไว้ใช้นัดชิง ยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก ในช่วงปลายเดือนนี้ กับ “ เรือใบสีฟ้า ” เช่นเดียวกัน นั่นจึงทำให้ เลสเตอร์ ซิตี้ มีลุ้นพื้นที่ที่จะอยู่ในอันดับ 4 ของตารางเพื่อที่พวกเขาจะได้พื้นที่ไปเล่น ยูฟ่า ในฤดูกาลหน้า แต่ทว่า เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ไม่สามารถทำตามฝันได้ หลังจากที่พวกเขาพ่ายให้กับ “ ไก่เดือยทอง ” ในบ้านอย่างน่าเสียดาย
สำหรับรูปเกมในวันนั้น ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะออกมาสวยหรู หลังจากที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำในนาทีที่ 18 จากการส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายของ เจมี่ วาร์ดี กองหน้ามากประสบการณ์ของทีม แต่ทว่าในที่ 41 แฮร์รี่ เคน กองหน้าของ สเปอร์ส ก็ยิงประตูตีเสมออีกครั้ง แต่ วาร์ดี เจ้าเก่าก็ยังคงฟอร์มอันร้อนแรงอีกครั้ง ซึ่งในนาทีที่ 52 วาร์ดี ก็ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำอีกครั้ง
แต่ทว่า สเปอร์ส ก็ได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 76 จากการทำพลาดเข้าประตูตัวเองของ แคสเปอร์ช ไมเคิล ก่อนที่ แกเร็ธ เบล จะสังหารในช่วงท้ายเกมในนาทีที่ 87 และนาทีที่ 96 ในช่วงต่อเวลา ตอกฝาโลงปิดโอกาสให้ เลสเตอร์ ซิตี้ หมดพื้นที่ในการเข้าไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าทันที
ซึ่งสกอร์นี้ คงไม่ต้องรอผลของ เชลซี กับ แอสตัน วิลล่า หลังจากที่ เลสเตอร์ ซิตี้ มีคะแนนตามหลัง เชลซี อยู่ 1 แต้ม แต่ถ้าหากว่า พวกเขาสามารถคุมสถานการณ์ชนะ สเปอร์ส ได้โอกาสสูงที่ เลสเตอร์ ซิตี้ จะตีตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีหน้าก็ค่อนข้างที่จะมีสูง แต่ก็น่าเสียดายหลังจากที่พวกเขาปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปในปีนี้ และ เลสเตอร์ ซิตี้ จบในอันดับ 5 ของตาราง พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020 – 21