Tel. 0800-555-555 | 0900-555-555 |

“สิงโตคำราม”ผงาดลุ้นแชมป์ยูโรหนแรก

ก่อนหน้าที่การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 จะเริ่มต้นขึ้น ทีมชาติอังกฤษภายใต้การคุมทีมของเกเร็ธ เซาธ์เกต ได้รับการคาดหมายว่าเป็นทีมเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์ไปครอง แต่เมื่อใกล้วันแข่งขันหล่นลงมาเป็นเต็ง 2 เพราะฝรั่งเศส ดีกรีแชมป์เวิลด์ คัพ 2018 มีสภาพทีมที่แข็งแกร่งแทบทุกตำแหน่ง และเมื่อประเดิมนัดแรกด้วยการเอาชนะเยอรมนี 1-0 ก็ยิ่งกลายเป็นเต็งหาม

ส่วน “สิงโตคำราม” ออกสตาร์ตนัดแรกด้วยการเล่นที่เวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน ลุ้นเหนื่อยกว่าจะเอาชนะโครเอเชีย 1-0 ประตู โดยได้ประตูจากราฮีม สเตอร์ลิง แต่ฟอร์มการเล่นก็ไม่น่าประทับใจนัก

อีกสองนัดในรอบแรก อังกฤษเสมอสกอตแลนด์ 0-0 และเอาชนะสาธารณรัฐเชก 1-0 เรียกว่าแฟนบอลอังกฤษก็ไม่ชอบใจนัก นักวิจารณ์ก็บอกว่าเล่นน่าเบื่อเกินไป และทั้งสามนัดมีผู้เล่นคนเดียวที่ทำประตูได้ก็คือสเตอร์ลิง ซึ่งแม้จะพาทีมเข้ารอบในฐานะทีมอันดับ 1 ในกลุ่มได้ แต่ปีกจอมลุยของแมนฯซิตี้ก็ไม่เป็นที่สบอารมณ์ของแฟนบอล โดยมองว่าใช้โอกาสเปลืองเกินไป

เซาธ์เกต พลิกโฉมการเล่นของ “สิงโตคำราม” มาตั้งแต่เวิลด์ คัพ 2018 ที่ไปได้ไกลถึงรอบรองชนะเลิศ โดยไม่เน้นไปที่การทำประตู แต่เน้นผลการแข่งขัน เล่นเกมรับเหนียวแน่นแล้วหาโอกาสโต้กลับ เป็นสไตล์ที่ทีมชาติอิตาลีเคยใช้มาก่อน

นอกจากรูปแบบการเล่นแล้ว เซาธ์เกต ยังให้โอกาสนักเตะที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ไม่ใช่บิ๊กเนม อย่างคัลวิน ฟิลลิปส์ และ ดีแคลน์ ไรซ์ เป็นหัวใจในแดนกลาง เลือกใช้งานคีแรน ทริปเปียร์ เป็นแบ็กซ้ายบ้าง แบ็กขวาบ้าง

และพอเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีมชาติอังกฤษถึงได้กลายเป็นทีมที่ถูกจับตามองมากที่สุดในทัวร์นาเมนต์ ล้างแค้นเอาชนะคู่ปรับสำคัญอย่าง “อินทรีเหล็ก” เยอรมนีลงได้ 2-0 ประตู และแฮร์รี เคน ทำประตูแรกได้สำเร็จ

“สิงโตคำราม” ที่ได้แฮร์รี แม็คไกวร์ มาบัญชาการเกมรับ ได้แจ็ค กรีลิช มาเป็นตัวพลิกเกม มีสเตอร์ลิง และ เคน เป็นตัวอันตราย และเล่นได้ท็อปฟอร์มในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยการไล่ถล่มยูเครน 4-0 และในรอบตัดเชือกดวลเดือด 120 นาทีเอาชนะเดนมาร์ก 2-1 ประตูเข้าไปชิงชนะเลิศกับอิตาลี เป็นการลุ้นแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปเป็นครั้งแรก และยังเป็นครั้งแรกที่เล่น 120 นาทีเอาชนะในเกมน็อก

เอาต์ได้ โดยก่อนหน้านี้เคยทำได้ในเวิลด์ คัพ 1990 ที่อิตาลี ที่เอาชนะแคเมอรูน 3-2 ประตู ในรอบก่อนรองชนะเลิศ

ต้องยอมรับว่าในยูโร 2020 เซาธ์เกตมีนักเตะให้เลือกใช้งานมากมาย และเขาก็ใช้ผู้เล่นปรับเปลี่ยนไปตามแท็คติก และดูว่าทีมคู่แข่งเป็นใคร มีลักษณะอย่างไร ซานโช จึงได้ตัวจริงนัดเดียว และ กรีลิช กลายเป็นตัวสำรอง

ตอนนี้ในตำแหน่งแบ็กซ้าย ลุค ชอว์ โดดเด่นทั้งรุกและรับ เช่นเดียวกับแม็คไกวร์ ที่เด่นมากในเกมรับและยังอันตรายในการเล่นลูกเซ็ตพีซ ส่วน แฮร์รี เคน ยิงไปแล้ว 4 ประตู เป็นหัวหอกที่ไว้ใจได้มากที่สุด

แต่นักเตะที่โดดเด่นที่สุดในทีมก็คือสเตอร์ลิง นอกจากจะทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง สไตล์การเล่นที่พาบอลไปกับตัวเองได้ดี และประสานงานกับกรีลิชและชอว์ ทำให้อังกฤษได้ประตูสำคัญหลายประตู และรวมถึงทำให้ทีมได้จุดโทษจนกลายเป็นประตูชัยให้อังกฤษผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ

ถึงตอนนี้ไม่มีใครมีความสุขมากไปกว่าเกเร็ต เซาธ์เกต ที่เชื่อมั่นในตัวสเตอร์ลิง อย่างไม่คลอนแคลน

แถมยังช่วยปลุกปั้นดีแคลน ไรซ์ และ คัลวิน ฟิลิปปินส์ กลายเป็นนักเตะเนื้อหอมที่สุดในทีม

เจอร์เกน คลิ้นสมันน์ อดีตกองหน้าทีมชาติเยอรมนีที่เคยโด่งดังกับทีม “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส บอกว่า สำหรับเขาแล้วอังกฤมีโอกาสดีที่สุดที่จะคว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง เพราะองค์ประกอบของทีมลงตัว มีโค้ชที่มีฝีมือ แถมยังได้เล่นนัดชิงชนะเลิศในเวมบลีย์ของตัวเองเสียอีก

“สำหรับผมแล้ว อังกฤษเป็นเต็ง 1 นับตั้งแต่ออกสตาร์ตในฤดูกาลนี้ พวกเขามีเกมรับที่ยอดเยี่ยม และมีผู้เล่นเกมรุกที่ดีหลายคน”

“คลิ้นซี่” ระบุว่า ในเกมเจอกับเยอรมนีนั้น “อินทรีเหล็ก” มีโอกาสที่จะเป็นผู้ชนะได้ แต่ไม่สามารถทำประตูได้จากการสร้างโอกาสมากมาย และได้รับบทเรียนในที่สุด

อังกฤษเจอกับอิตาลี จึงนับเป็นคู่ชิงชนะเลิศที่เหมาะสมอย่างยิ่ง