ตอนที่ “เสือเหลือง” ดอร์ตมุนด์ตัดสินใจขายเจดอน ซานโช ปีกทีมชาติอังกฤษให้กับแมนฯยูด้วยค่าตัว 73 ล้านปอนด์ เกิดคำถามต่อมาก็คือใครจะเป็นคนเปิดป้อน แอสซิสต์ให้กับเออร์ลิง ฮาแลนด์ ทำประตู เพราะซานโช-ฮาแลนด์ เป็นคู่ขาที่รู้ใจกันมายาวนาน
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าปัญหานั้นอาจจะไม่เกิดขึ้นอย่างที่กังวลกัน เพราะในบุนเดสลีกาเตะผ่านไป 4 นัด ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ยิงไปแล้ว 5 ประตู และทำเองอีก 5 แอสซิสต์
ส่วนในศึกยูฟา แชมเปียนส์ลีก ฮาแลนด์เป็นดาวซัลโวสูงสุดเมื่อฤดูกาลที่แล้วด้วยการทำไป 10 ประตู และในฤดูกาลใหม่ประเดิมเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ดอร์ตมุนด์บุกไปเอาชนะเบซิกตัส ทีมแกร่งของตุรกี 2-1 ประตู และฮาแลนด์ทำประตูชัยให้กับทีม และทำสถิติยิง 66 ประตูในการลงเล่นนัดที่ 66 ให้ดอร์ตมุนด์ในทุกรายการ แถมเป็นประตูที่ 21 จากการลงเล่น 17 นัดในแชมเปียนส์ลีกอีกด้วย
และทำให้เขาเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำได้ถึง 21 ประตูในแชมเปียนส์ลีก เจ้าของสถิติในแชมเปียนส์ลีกก่อนหน้านี้ก็คือ รุด ฟาน นิสเตลรอย แต่ต้องลงเล่นถึง 27 นัดถึงยิงได้ 21 ประตู
ลิโอเนล เมสซี สุดยอดนักเตะของโลกมีสถิติลงเล่นในแชมเปียนส์ลีก 17 นัดแรกให้บาร์เซโลนาและทำไปได้แค่ 6 ประตูเท่านั้น
ในขณะที่คริสเตียโน โรนัลโด้ เป็นดาวซัลโวสูงสุดในยูฟา แชมเปียนส์ลีกด้วยประตูรวมทั้งหมด 136 ประตู แต่ช่วงที่โด่งดังขึ้นมากับแมนฯยูก็ยังไม่สามารถยิงได้มากเท่ากับที่ฮาแลนด์ทำไว้เลย
และดูเหมือนว่าคู่ขาคนใหม่ของดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ก็คือ “จู๊ด เบลลิงแฮม” มิดฟิลด์ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ
เบลลิงแฮมยิงเบิกร่องให้ดอร์ตมุนด์ขึ้นนำเบซิกตัส และเป็นคนแอสซิสต์ให้ฮาแลนด์ทำประตูที่สอง
ดาวรุ่งชาวอังกฤษซึ่งมีอายุ 18 ปีกับอีก 78 วัน กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูในแชมเปียนส์ลีกได้ติดต่อกัน โดยฤดูกาลก่อนเบลลิงแฮมเคยยิงได้ในเกมเจอกับแมนฯซิตี้ ในรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่สอง และเป็นการทำลายสถิติเดิมที่คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ของปารีส แซงต์แยร์กแมง เคยทำไว้ตอนมีอายุ 18 ปีกับอีก 85 วัน
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้ในฐานะทีมเยือนของเกมยูฟา แชมเปียนส์ลีก ทำลายสถิติเดิมที่เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาของลิเวอร์พูลทำไว้ในขณะมีอายุ 19 ปีกับอีก 10 วัน
อย่างไรก็ตาม เบลลิงแฮม ไม่ใช่ผู้เล่นในตำแหน่งริมเส้นเหมือนกับซานโช แต่เขาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง เป็นตัวคุมจังหวะของเกม และสามารถสอดหาพื้นที่ทำประตูได้อย่างน่าประทับใจ สไตล์ของเขาจะใกล้เคียงกับสตีเวน เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีม “หงส์แดง” มากกว่า
มาร์ก เบลลิงแฮม พ่อของจู๊ด ก็เคยเล่นฟุตบอลในตำแหน่งศูนย์หน้า และเป็นดาวซัลโวของนอน-ลีก โดยทำได้ถึง 700 ประตูตลอดระยะเวลาค้าแข้งนานกว่า 20 ปี และโจบี้ น้องชายวัย 15 ก็เล่นอยู่ในทีมยู-18 ของเบอร์มิงแฮม
มิชาเอล ซอร์ก ผู้อำนวยการด้านกีฬาของดอร์ตมุนด์ระบุว่า จู๊ด เบลลิงแฮม คือนักเตะสุดหวงของสโมสร มีพรสวรรค์สูง ทำงานหนัก และอันตรายมากแม้ในจังหวะไม่ได้ครองบอล และดอร์ตมุนด์คงไม่ยอมปล่อยตัวเขาออกจากทีมง่ายๆ
ถึงไม่มีซานโช แต่เบลลิงแฮมคือคู่ขาเขย่าขวัญคนใหม่ของเออร์ลิง ฮาแลนด์
