ติโม แวร์เนอร์ กองหน้านักเตะสายเลือดเมืองเบียร์ เปิดฉากยิงลูกแรกให้กับตัวเองกับเกม พรีเมียร์ลีก ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเกมการแข่งขันในนัดที่ 7 ของ พรีเมียร์ลีก และ เชลซี ก็สามารถเอาชนะ “ นักบุญ ” เซาแธมป์ตัน ไปได้ 3 – 1 ซึ่งลูกที่ 2 แวร์เนอร์ ก็ยิงประตูขึ้นนำให้กับทีม 2 – 1 ซึ่งเป็นลูกแรกของเจ้าตัวในซีซั่นนี้ ที่ได้ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย หลังจากที่แฟนบอล เชลซี เฝ้ารอชื่อของ แวร์เนอร์ ขึ้นบนสกอร์บอรดมาถึง 7 นัด
ถึงแม้ว่า เชลซี จะสามารถเอาชนะ เซาแธมป์ตัน ได้ 3 – 1 แต่สำหรับลูกยิงของ แวร์เนอร์ ที่ยิงให้ทีมขึ้นนำในนาทีที่ 84 ถือว่าเป็นประตูสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าตลอดระยะเวลาก่อนหน้านี้ เชลซี และ เซาแธมป์ตัน เล่นด้วยสถานการณ์ที่มีผลเสมอ ถึงแม้ว่า เชลซี จะบุกอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่สำหรับ แวร์เนอร์ หลังจากที่เจ้าตัวส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายก็ทำให้เกมของ เชลซี ไหลลื่นจน เบนซินเวลล์ ยิงปิดกล่องในนาทีที่ 89 ซึ่งหากจะลงรายละเอียดสำหรับเกมในนัดที่ แวร์เนอร์ ยิงดับฝัน “ นักบุญ ” เซาแธมป์ตัน ก่อนหน้านี้เจ้าตัวยังคงเป็นขวัญใจ var เช่นเดิม หลังจากที่ แวร์เนอร์ ได้ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเช็คจาก var ว่าเป็นลูกฟาวล์ก่อนที่ แวร์เนอร์ จะยิง
และแน่นอนว่า ลูกยิงของ แวร์เนอร์ คือประตูแรกของเจ้าตัวใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2021 – 22 ซึ่งแฟนบอลก็คงรอคอยชื่อของ แวร์เนอร์ ขึ้นสู่สกอร์บอร์ดตลอดระยะเวลา 6 นัดที่ผ่านมา จนกระทั่งเกมที่ 7 ลูกยิงของ แวร์เนอร์ ก็ถือว่าเป็นประตูสำคัญที่พวกเขาสามารถถล่ม เซาแธมป์ตัน ในถิ่น สแตมฟอร์ดบริดจ์ ได้ถึง 3 – 1
ซึ่งแน่นอนว่า ในเกมนั้นเหล่าบรรดากูรูลูกหนังคงต้องหายหลังกันเป็นแถบ ๆ หลังจากที่ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ฟอร์มการเล่นของ แวร์เนอร์ ว่าคงได้รับโอกาสเป็นเพียงแค่กองหน้าตัวลอก เพราะ ทูเคิล ยังคงหวังพึ่ง ลูกากู เช่นเดิม แต่สำหรับเกมที่พวกเขาถล่ม “ นักบุญ ” ในบ้านของตัวเอง กลับกลายเป็นว่า แวร์เนอร์ คือตัวที่เข้าจบสกอร์ในกรอบ 6 หลา แทบจะทุกลูก
ซึ่งสำหรับเกมที่พวกเขาสามารถเอาชนะ เซาแธมป์ตัน ในบ้านของตัวเองได้ แวร์เนอร์ ได้รับบทบาทเป็นกองหน้าฝั่งขวา ซึ่งโดยปกติแล้ว แวร์เนอร์ จะยืนกองหน้าฝั่งซ้าย และสำหรับ 3 ประตูที่ เชลซี ยิงได้ในบ้านของตัวเอง ก็มาจากการขึ้นเกมทางฝั่งริมเส้น ไม่ว่าจะเป็นลูกแรกที่ ซาโลบาร์ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย และ แวร์เนอร์ ยิงประตูที่ 2 ให้กับ เชลซี ซึ่งเป็นลูกแรกของเจ้าตัวในซีซั่นนี้ และรูปที่ 3 จาก เบนซิลเวลล์
