เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้สโมสรที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมฟุตบอลที่ร่ำรวยติดแนวหน้าของโลก สโมสรที่อยู่ร่วมเมืองกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เคยอยู่ใต้ร่มเงาของปิศาจแดงมานานนับทศวรรษ จนกระทั่งทุกวันนี้พวกเขากลายเป็นมหาอำนาจเบอร์ต้นๆของทวีปยุโรปจนหลายทีมเกรงขาม แม้ว่าความยิ่งใหญ่นี้จะเกิดขึ้นในช่วงยุคสมัยใหม่ที่พวกเราหลายคนได้สัมผัส แต่ใครบ้างเล่าที่จะรู้ประวัติความเป็นมาของทีมเรือใบสีฟ้าทีมนี้ วันนี้ลองมาทำความรู้จักไปพร้อมกัน
1.ยุคก่อตั้งสโมสร
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลคลับ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1880 ในชื่อ เซนต์มากส์ (เวสต์กอร์ตัน) โดยมี แอนนา คอนเนลล์ กับผู้ดูแลโบสก์เซนต์มากส์อีก 2 ท่าน เป็นผู้ร่วมก่อตั้งทีม เดิมทีที่ตั้งของทีมอยู่ที่ฝั่งตะวันออกของเมืองแมนเชสเตอร์ ต่อมาได้ย้ายไปอยู่ในย่านไฮด์โรดของเมืองอาร์ดวิกซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองแมนเชสเตอร์ และได้เปลี่ยนชื่อทีมเป็น อาร์ดวิก เอฟซี โดยในปี 1892 ได้เข้าร่วมฟุตบอลลีกอังกฤษในระดับ ดิวิชั่น 2 ต่อมาในปี 1893-1894 สโมสรอาร์ดวิก เอฟซี ประสบปัญหาทางด้านการเงินอย่างหนักจนมีการเปลี่ยนแปลงภายในทีมครั้งใหญ่และมีการเปลี่ยนชื่อทีมเป็น “แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอล คลับ” มาจนถึงปัจจุบัน
2.การก้าวเข้าสู่ลีกสูงสุดของอังกฤษ
จุดเริ่มต้นในการเข้ามาร่วมในลีกสูงสุดของอังกฤษคือการที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้แชมป์ฟุตบอลลีก ดิวิชั่น 2 ซึ่งนับเป็นแชมป์แรกของทีมจึงเป็นบันไดให้พวกเขาก้าวสู่ลีกสูงสุดของอังกฤษนับแต่นั้นมา และพวกเขายังสามารถคว้าแชมป์เอฟ เอ คัพได้ในปี 1904 เวลาต่อมาในปี 1920 เกิดเหตุการไม่คาดฝันขึ้นเมื่อมีเหตุเพลิงไหม้ที่สนามไฮด์โรดทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องย้ายมาเล่นในรังเหย้าแห่งใหม่คือเมนโรด และในปี 2003 พวกเขาย้ายรังเหย้าอีกครั้งเพื่อมาเล่นที่สนาม ซิตี้ ออฟแมนเชสเตอร์ โดยเป็นการเช่าจากสภาเมืองแมนเชสเตอร์ เป็นสัญญาระยะเวลาถึง 250 ปีและปรับปรุงสนามให้มีความจุเพิ่มขึ้น จนถึงปัจจุบันนี้ สนามเหย้าแห่งนี้เปลี่ยนชื่อตามสปอนเซอร์หลักของสโมสรคือ เอติฮัด สเตเดี้ยม หลังการเทคโอเวอร์ทีม ของกลุ่มทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
3.แชมป์ที่รอคอยมานานกว่า 44 ปี และความยิ่งใหญ่บนเกาะอังกฤษ
นับตั้งแต่การเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรของชีค มานซุร์ สร้างความเปลี่ยนแปลงให้แมนเชสเตอร์ซิตี้ มากมาย ตั้งแต่การดึงตัวยอดกุนซืออย่างโรเบอร์โต้ มันชินี่ เข้ามาสู่ทีมประกอบกับนักเตะระดับดาราดังอย่าง เซอร์คิโอ กุน กเกวโร่ ,มาริโอ บาโลเตลี่ , ดาวิด ซิลบา ,ซาร์มี่ นาสรี่ , เกเร็ท แบรี่ เป็นต้น จนสามารถคว้าแชมป์แบบดราม่าในนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2011-2012เฉือนคู่ปรับร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปเพียงแค่ประตูได้เสีย คว้าแชมป์ลีกที่รอคอยมานาน 44 ปี
นับตั้งแต่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้แชมป์ลีกมาครองเป็นครั้งแรก ดูเหมือนพวกเขาจะเริ่มยึดติดกับตำแหน่งแชมป์ลีกมากขึ้น การเข้ามาคุมบังเหียนของเป๊บ กวาดิโอล่ายิ่งสร้างความเหนือชั้นให้กับทีมเรือใบสีฟ้า ทุกฤดูกาลพวกเขามักจะเป็นผู้ขับเคี่ยวไล่ล่าแชมป์อย่างเต็มตัวตลอด เชื่อว่าพวกเขาจะเขียนประวัติศาตร์หน้าใหม่ต่อไปเรื่อยๆตราบเท่าที่ยังมีฟุตบอลบนโลกใบนี้