นับได้ว่าเป็นความโชคดีที่สุดสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พวกเขาได้ “อาจารย์ป๋า” หรือว่า ราล์ฟ รังนิก เข้ามานั่งบัลลังก์นายใหญ่ เพราะเชื่อได้เลยว่าการเปลี่ยนแปลงภายในสโมสร โดยเฉพาะการผูกขาดจากนักเตะก็คงจะหายหมดไป หลังจากที่ความชัดเจน และความแน่วแน่ พร้อมกับความเด็ดขาด มีมาพร้อมกับ รังนิก และเจ้าตัวก็ชูนโยบายเด่นว่า “ไม่มีนักเตะคนไหน ได้รับสิทธิพิเศษต่างจากนักเตะคนอื่น” เพราะ แมนเชสดตแร์ ยูไนเต็ด คือความเท่าเทียมที่ทุกคนมีโอกาสจะได้รับทั้งหมด โดยเฉพาะนักเตะที่อยู่ในทีม
สำหรับการมาของ ราล์ฟ รังนิก โค้ชในวัย 63 ปี ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2021 กับการนั่งบัลลังก์นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ใช่เพียงแค่เข้ามาทดแทนตำแหน่งของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ที่บอร์ด “ผี” ได้โปรดออกไป หรือว่าทำงานสานต่อจาก ไมเคิล คาร์ริค ที่ได้ลาออกตาม “น้าโอ” เช่นเดียวกัน เพราะ รังนิก เข้ามาเซ็นสัญญาระยะยาวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อที่จะเป็นที่ปรึกษาระดับอาวุโส และในช่วงที่ประคับประคองทีมนี้ ราล์ฟ รังนิก ก็นั่งแท่นในใหญ่ไปพลาง ๆ เพื่อขัดตราทัพ “ปีศาจแดง”
และความชัดเจนของ อาจารย์ป๋า ก็เริ่มฉายออกมาตั้งแต่ที่ ราล์ฟ รังนิก ยังไม่เข้าสู่สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่ได้รับการเปิดเผยว่า ราล์ฟ รังนิก จะเข้ามานั่งเป็นนายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แน่นอนว่าสิ่งแรกที่แฟนบอล “ผีแดง” รู้สึกเป็นกังวล นั่นก็คือรูปแบบการเล่นและแผนงานของ รังนิก ที่ไม่ได้อ้างอิงกับ คริสเตียโน โรนัลโด้ เพราะ รังนิก เป็นผู้จัดการทีมที่โดดเด่นเรื่องเพลสซิ่งบอล ส่วน โรนัลโด เจ้าตัวก็โดดเด่นกับบอลวันโชว์แมน นั่นจึงทำให้แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รู้สึกเป็นห่วง แต่ท้ายที่สุดในปัจจุบันนี้ โรนัลโด้ ก็ปรับตัวเข้ากับแผนของ รังนิก ได้แบบ 100% เช่นเดียวกัน
และสิ่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในยุคของ ราล์ฟ รังนิก นั่นก็คือเรื่องของผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์ภายในทีม ที่ดูเหมือนว่าอาจารย์ป๋า จะไม่ได้แคร์ใครทั้งสิ้น ซึ่งในกรณีของ โรนัลโด้ ก็จะเห็นอยู่บ่อยครั้งที่เจ้าตัวออกสตาร์ทเป็นตัวสำรอง ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว โรนัลโด้ ควรที่จะเป็นผู้เล่นตัวหลักในชุด 11 ตัวจริง
และอีกหนึ่งกรณีที่ ราล์ฟ รังนิก ทำได้แตกต่างจาก โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ นั่นก็คือเรื่องของบรรดาผู้เล่นที่กำลังเย่อหยิ่ง และเล่นตัวกับสัญญาฉบับใหม่ โดยในปัจจุบันนี้ ป็อกบา ห้องเครื่องชาวฝรั่งเศส ที่เจ้าตัวและเอเยนต์ ไรโอล่า ยังคงประวิงเวลาและแสดงความไม่ชัดเจนกับสัญญาฉบับใหม่ ซึ่งในกรณีนี้ ลุงราล์ฟ ก็ได้ออกมาแสดงความชัดเจนเช่นเดียวกันว่า “ถ้าหากนักเตะรายไหน ต้องการที่จะย้ายออกจากทีมก็เชิญไปได้เลย” ซึ่งเจ้าตัวไม่ต้องการนักเตะที่ประวิงเวลา หรือว่าเหยียบเรือสองแคม
ซึ่งบทสัมภาษณ์ของ ราล์ฟ รังนิก ก็ได้ออกมาอย่างชัดเจนผ่านทางเว็บไซต์สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกี่ยวกับนโยบายต่าง ๆ ว่า ทุกอย่างจะเท่าเทียม ซึ่งอาจจะไม่ใช่กรณีของ ป็อกบา รายเดียวเท่านั้น ที่ ราล์ฟ รังนิก ไม่คิดที่จะง้อหรือว่าถ้าหากต้องการย้ายทีมก็เชิญออกไปทันที เพราะ ราล์ฟ รังนิก ก็แสดงความชัดเจนว่า แมนยู ฯ ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว เพราะนักเตะทุกคนต้องการโอกาสที่จะลงสนาม และหากมองในแง่กับการดีคือความเท่าเทียมในยุคของ ราล์ฟ รังนิก ที่จะกระตุ้นนักเตะ มากกว่าในยุคของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ที่ชอบง้อนักเตะระดับสตาร์ภายในทีม
