หากจะพูดถึงทีมฟุตบอล 1 ทีมแน่นอนว่านอกจากที่พวกเขาจะใช้งบซื้อกองหน้าระดับโลก เข้ามาประดับทีมเพื่อที่จะผลิตสกอร์ และตามมาด้วยตำแหน่งห้องเครื่องที่สามารถปั้นเกม เพื่อสร้างสรรค์โอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ และตำแหน่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือแผงกองหลัง ไม่ว่าจะเป็นเซนเตอร์แบ็ค หรือว่าแบ็คซ้าย แบ็คขวา ที่มีส่วนสำคัญที่สุดกับการป้องกัน กองหน้าแบ็คโฟรเปิดเกมรุกก่อนส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายของทีม และแน่นอนว่า ทีมที่มีกองหลังแข็งแกร่งที่สุด จากการจัดอันดับและมีสถิติเทียบเคียงคือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยอดทีมแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สำหรับในปัจจุบันนี้ ลิเวอร์พูล พวกเขามีคู่หูเซ็นเตอร์แบ็คอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์จ กองหลังชาวดัตช์ที่เรียกได้ว่ามีส่วนสำคัญกับเกมรับของ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่ที่ย้ายเข้าสวมเครื่องแบบให้กับ หงส์แดง และยังมี โจเอล มาติป ที่เป็นคู่หูเล่นเข้าขากันแบบหมดจด ที่เรียกได้ว่าปิดประตูบ้านเพื่อไม่ให้กองหน้าหรือตัวรุกของคู่แข่งเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และยังมี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ พร้อมกับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่เล่น แบ็คทั้ง 2 ข้าง และทั้ง 2 ฟลูแบ็คไม่ได้โดดเด่นเพียงแค่เกมรับเท่านั้น ในเรื่องของเกมรุกแบ็คทั้งสองข้างของ หงส์แดง ก็ทำได้ดีเช่นเดียวกัน
หาจจะย้อนกลับไปความแข็งแกร่งแผงกองหลังของ ลิเวอร์พูล คงจะเป็นในฤดูกาล 2019 -2020 ที่พวกเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นนั้น และแน่นอนว่าการรอคอยของแฟนบอล ลิเวอร์พูล ทั่วโลกกับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในรอบ 30 ปี ก็เกิดขึ้น
และต้องยอมรับเลยว่าทีมของ คล็อปป์ มี เวอร์จิล ฟาน ไดค์จ ที่ปักหลักเฝ้าแผงหลัง จนกระทั่งในซีซั่นต่อมานั่นคือซีซั่นที่ผ่านมา เวอร์จิล ฟาน ไดค์จ ได้รับอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง และแน่นอนว่าแผงหลังของ ลิเวอร์พูล พวกเขาก็ไม่มีความเสถียรเช่นเดิม จึงทำให้จบในอันดับ 3 ของตารางในพรีเมียร์ลีก กับซีซั่น 2020 – 21
และสำหรับในซีซั่นนี้ หลังจากที่แผง ลิเวอร์พูล หลังภายใต้การนำทัพของ คล็อปป์ “ลิเวอร์พูล” มี ฟาน ไดค์จ ยืนคู่กับ มาติป และมี เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ยืนขนาดฟูลแบ็คทั้งสองข้าง ทีมของพวกเขาก็ถูกยกสถิติให้เป็นทีมที่มีแผงหลังแข็งแกร่งที่สุด ซึ่งตลอดฤดูกาล 2021 – 22 กับการลงสนามไป 22 นัด ลิเวอร์พูล เสียเพียงแค่ 19 ประตู เท่านั้น
นั่นจึงทำให้พวกเขาถูกจัดเป็นอันดับ 1 ของ พรีเมียร์ลีก ในตอนนี้กับกองหลังที่มีความแข็งแกร่ง และเครื่องจักรสีแดง ก็ยังเป็นทีมที่มีเกมรับที่ดีที่สุดในถ้วยใหญ่ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก หลังจากที่พวกเขาเสียไปเพียงแค่ 6 ลูก ในรอบแบ่งกลุ่ม