มหกรรมการแข่งขันที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดก็คือการแข่งขันฟุตบอลโลก และในเวิลด์ คัพ 2022 เจ้าภาพก็คือ กาตาร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ชาติในตะวันออกกลางได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ และมีมิติใหม่เกิดขึ้นหลายอย่าง
เนื่องจากเป็นชาติในตะวันออกกลางทำให้ไม่สามารถจัดได้ในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค.ตามธรรมเนียมปฎิบัติเนื่องจากสภาพอากาศร้อนเกินไป และย้ายไปเตะในช่วงปลายปีระหว่างวันที่ 21 พ.ย.ถึง 18 ธ.ค.
โดยฟุตบอลโลกครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะแข่งขันในรอบสุดท้าย 32 ทีม เพราะครั้งต่อไปกำลังจะเพิ่มให้มีทีมเข้าร่วมแข่งขันถึง 48 ทีม
แต่ที่ช็อกแฟนบอลมากที่สุดเห็นจะได้แก่ อิตาลี อดีตแชมป์โลก 4 สมัยและมีดีกรีเป็นแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ต้องชวดโอกาสเข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย เมื่อลงเล่นในเกมเพลย์ออฟ รอบรองชนะเลิศ เสียท่าให้กับ นอร์ธ มาซิโดเนีย 0-1 ประตู
เป็นการพลาดโอกาสในการเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน
ในประวัติศาสตร์มีทีมแชมป์แห่งชาติยุโรปชวดไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย รวม 4 ครั้งดังนี้
1978: Czechoslovakia ได้เป็นแชมป์แห่งชาติยุโรป 1976 แต่ไม่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายศึกเวิลด์ คัพ
1994 Denmark เป็นแชมป์แห่งชาติยุโรป 1992 แต่ไม่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายศึกเวิลด์ คัพ
2006: Greece เป็นแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2004 แต่ไม่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายศึกเวิลด์ คัพ
2022: Italy แชมป์ยูโร 2020 แต่ไม่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายศึกเวิลด์ คัพ ที่กาตาร์
เกิดอะไรขึ้นกับอิตาลี
ทีม “Azzurri” เป็นทีมระดับหัวแถวของโลกมาโดยตลอด และผลงานในศึกยูโร 2020 ถือว่าแกร่งทั่วแผ่น และ Roberto Mancini กุนซือวัย 57 ถูกมองว่ามีโอกาสทำได้เหมือน Spain ที่เคยพาทีมคว้าแชมป์แห่งชาติยุโรปแล้วตามมาด้วยการเป็นแชมป์โลก
แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
อิตาลีมีผลงานการเล่นแผ่วลงมามากนับตั้งแต่ได้แชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 แต่แฟนบอลก็ยังมีความหวังว่าจะผ่านเข้ารอบไปได้ไม่ยาก แม้จะลงเล่นเพลย์ออฟก็น่าจะกรุยทางเข้ารอบไปได้ แต่แค่เกมรอบตัดเชือกก็พลาดท่าทีมนอกสายตาอย่าง North Macedonia 0-1 ประตู
และเป็นเกมที่แสดงให้เห็นถึงแผลใหญ่ของอิตาลี
ขุนพล “Azzurri” มีจุดเด่นที่การเล่นเกมรับ มีคู่เซนเตอร์ที่แข็งแกร่ง มีผู้รักษาประตูอย่าง Gianluigi Donnarumma แต่จุดอ่อนของทีมก็คือแนวรุกของทีมที่ขาดความเฉียบคม ไม่มีเพลย์เมคเกอร์เหมือนในยุคของ Roberto Baggio และกองหน้าตัวเป้าก็ไม่เด็ดขาดเหมือนในอดีต
ผลงานในรอบคัดเลือกจึงทำได้ออกมาต่ำกว่ามาตรฐานมาก
เป็นเหมือนกับผลงานในรอบคัดเลือกเวิลด์ คัพ 2018 ไม่ผิดเพี้ยน
“เราพยายามอย่างเต็มที่ แต่ผลงานออกมาไม่เป็นไปอย่างที่หวัง เราเล่นได้ดีแล้ว แต่ขาดความเด็ดขาดในจังหวะเข้าทำ” Giorgio Chiellini กัปตันทีมชาติอิตาลีกล่าวถึงปัญหาของทีม
“ผมยังเชื่อมั่นในตัวของ Roberto Mancini และหวังว่าเขาจะอยู่คุมทีมต่อนะ”
Marco Verratti มิดฟิลด์ตัวเก๋าของทีมยอมรับว่าการพลาดโอกาสไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายอีกครั้งเปรียบเหมือนดังฝันร้ายที่ตามมาหลอกหลอน
ปัญหาของอิตาลีก็คือใช้โอกาสเปลืองเกินไป แม้จะคุมเกมได้วิเศษสุดแต่เมื่อไม่สามารถทำประตูได้ก็ต้องได้รับการลงโทษ
อิตาลีต้องยอมรับว่าจากช่วงเวลาสวรรค์กลับเข้าสู่เส้นทางนรกได้อย่างเหลือเชื่อ
ก.ค.2021-อิตาลีคว้าแชมป์ยูโร 2020
ก.ย.2021-อิตาลีสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการไม่แพ้ใครยาวนานที่สุด
แต่เมื่อมี.ค.2022 ตกรอบตัดเชือกเพลย์ออฟเหลือเชื่อ ยังไม่ทันได้ดวลเดือดกับโปรตุเกสอย่างที่หวังไว้เลย
Blagoja Milevski กุนซือของ North Macedonia ให้สัมภาษณ์ถึงชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ว่ากุญแจแห่งความสำเร็จไม่ใช่เรื่องลึกลับซับซ้อนแต่อย่างใด
“เราเล่นกับอิตาลีด้วยสไตล์ที่ของอิตาลีเองนั่นไง ตลอดเกมเรามีโอกาสสองครั้งเท่านั้นแต่ทำได้เพียงหนึ่งประตู”
อิตาลีเจ้าของสไตล์การเล่นตีหัวเข้าบ้านพังพาบเพราะเหตุนี้เอง
หมองูตายเพราะงูโดยแท้
