หากพูดถึงสโมสรฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น แฟนบอลพันธุ์แท้หรือกูรูทั้งหลายน่าจะนึกถึงชื่อของทีมลูกศรม่วงทอง ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า ยอดทีมแห่งจังหวัดฮิโรชิม่า อดีตต้นสังกัดของยอดกองหน้าทีมชาติไทยอย่างธีรศิลป์ แดงดา โดยซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า เป็นหนึ่งในสมาชิกก่อตั้งเจลีก 10 สโมสร และมีเรื่องราวมากมายนับตั้งแต่การก่อตั้งสโมสร วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับประวัติของพวกเขา ซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา
1.การก่อตั้งสโมสร
ซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา หนึ่งในสโมสรที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เจ้าของดีกรีแชมป์เจลีก 3 สมัย และรองแชมป์ 2 สมัย ก่อตั้งสโมสรตั้งแต่ปี 1938 จนถึงปัจจุบันปาเข้าไป 84 ปี หรือ 8 ทศวรรษเข้าให้แล้ว ซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา มีถิ่นฐานอยู่ที่เมืองฮิโรชิมา จังหวัดฮิโรชิม่าประเทศญี่ปุ่น เริ่มต้นมาจากการเป็นทีมฟุตบอลขององค์กรคือบริษัทมาสด้าเช่นเดียวกันกับทีมอื่น ๆ ในลีกญี่ปุ่น ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น ซานเฟรชเช ฮิโรชิมะ ในปี 1992 เพื่อปรับเปลี่ยนสู่การเป็นสโมสรอาชีพตามแนวทางของประเทศญี่ปุ่นจนถึงทุกวันนี้
2.ที่มาของชื่อสโมสรและฉายา
หลังจากในช่วงที่ฟุตบอลลีกญี่ปุ่นพยายามจะปรับภาพลักษณ์ของตัวเองจากทีมฟุตบอลขององค์กรสู่ความเป็นสโมสรอาชีพ การเปลี่ยนชื่อทีมของพวกเขามีเทรนด์มาจากภาษาสเปนและอิตาลีนำมาผสมผสานกับชื่อญี่ปุ่น เช่นเดียวกันกับซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา โดยคำว่าซานในภาษาญี่ปุ่นนั้นแปลว่า สาม ส่วนเฟรซเซ่ เป็นภาษาอิตาลี แปลว่า ลูกศรหรือลูกธนูเมื่อนำมารวมกันจึงหมายความว่า “ลูกธนูสามดอก” ซึ่งมาจากประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น “โมริ โมโตนาริ” ตระกูลไดเมียวใหญ่แถบฮิโรชิมะกับประโยคที่เขาบอกแก่บุตรชาย 3 คนว่า “ลูกธนูดอกเดียวย่อมหักง่าย แต่หากลูกธนูสามดอกรวมกันแล้วย่อมหักได้ยาก” และนั่นจึงเป็นที่มาของท่าดีใจที่นักเตะของซานเฟรซเซมักจะฉลองประตูด้วยท่ายิงธนูกันทั้งทีมส่วนสีเสื้อของทีมและสีประจำสโมสรนั้นคือสีม่วงซึ่งถือเป็นสี “ชั้นสูง” เพราะเมืองฮิโรชิม่าถือเป็นเมืองที่มีความใกล้ชิดกับตระกูลจักรพรรดิ
3.เกียรติประวัติและการคว้าแชมป์
ซานเฟรซเซ ฮิโรชิมาสามารถคว้าแชมป์เจลีก ได้ 3 สมัยในปี 2012, 2013 และ 2015 โดยคนที่เข้ามาแบกความหวังใหม่ให้ซานเฟรชเช่ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคืออดีตนักเตะกองกลางตำนานของทีมที่เคยค้าแข้งถึง 14 ปีอย่าง ฮาจิเมะ โมริยาสุ โดนฮาเมจิถือเป็นกุนซือคนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรที่พาทีมคว้าแชมป์เจลีกครั้งแรกได้สำเร็จในปี 2012 แถมยังเป็นการคุมทีมเพียงแค่ปีด้วยเท่านั้นเอง นอกจากนั้นซานเฟรชเช่ภายใต้การคุมทีมของฮาจิเมะ ยังสามารถคว้าอันดับที่ 3 ในศึกฟุตบอลฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คลับ 2015 ได้อีกด้วย ก่อนที่ ฮาจิเมะ โมริยาสุ จะขอโบกมืออำลาถิ่นฮิโรชิม่าเมื่อปี 2017 เพื่อไปหาความท้าทายครั้งใหม่ในการคุมทีมชาติญี่ปุ่น รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ก่อนจะรับหน้าที่คุมทีมชาติญี่ปุ่น ชุดใหญ่ หลังจบฟุตบอลโลก 2018 แทนที่ “อากิระ นิชิโนะ” ที่โยกมาคุมทีมชาติไทย นั่นเอง
จากปรัชญาของตระกูลไดเมียวใหญ่ที่ให้ยึดมั่นในธนูสามดอก คือการรวมพลังกันต่อสู้เพื่อชัยชนะ นำมาสู่ปรัชญาการเล่นของซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา จนถึงทุกวันนี้ และจะยังคงสืบสานต่อไป เพื่อความยิ่งใหญ่ของพวกเขาในอนาคตอีกครั้ง
