หลังจาก Paris Saint-Germain คว้าแชมป์ Ligue 1 ตามมาด้วย Bayern Munich คว้าแชมป์ Bundesliga ไปครอง ก็มาถึงคราวแชมป์ La Liga
ซึ่งตำแหน่งแชมป์ได้ตกเป็นของ Real Madrid หลังจากเอาชนะ Espanyol 4-0 ประตู เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มี 81 แต้มจาก 34 นัดคว้าแชมป์ไปครองได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
“ราชันชุดขาว” คว้าแชมป์ La Liga ไปครองเป็นสมัยที่ 35 และฤดูกาลนี้ก็ยังมีโอกาสลุ้นแชมป์ Champions League ด้วย
คนที่มีส่วนต่อความสำเร็จของทีมอย่างมากที่สุดก็คือ Karim Benzema กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสลงเล่นในลีกรวม 30 นัด ยิงได้ 26 ประตู 11 แอสซิสต์ และหากรวมผลงานทุกรายการลงเล่น 42 นัด ยิงได้ 42 ประตู และทำอีก 13 แอสซิสต์
และตลอดระยะเวลาที่เล่นให้ Real Madrid นั้น Benzema มีผลงานน่าทึ่งมากมาย เขามีผลงานลงเล่น 601 เกม ยิงได้ 321 ประตู และช่วยให้ทีมได้แชมป์มากมาย ดังนี้
4x LaLiga
4x UCL
4x Club World Cup
4x Super Cup
3x Supercopa
2x Copa del Rey
แต่อีกคนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดก็คือ Carlo Ancelotti กุนซือชาวอิตาเลียน ที่หวนกลับมาคุม “ราชันชุดขาว” อีกสมัย การพาทีมคว้าแชมป์ LaLiga ฤดูกาล 2021-22 ทำให้ Ancelotti กลายเป็นผู้จัดการทีมคนแรกในประวัติศาสตร์ที่พาทีมที่เคยรับหน้าที่กุนซือคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ครบทั้ง 5 ลีกใหญ่ในยุโรป
ดังนี้
AC Milan (2003/04)
Chelsea (2009/10)
PSG (2012/13)
Bayern (2016/17)
Real Madrid (2021/22)
ในขณะที่ Pep Guardiola มีสถิติพาทีมที่คุมได้แชมป์ใน 3 ลีกเท่านั้นคือ แชมป์ La Liga กับ Barcelona 3 ครั้ง,แชมป์ Bundesliga 3 ครั้งกับ Bayern Munich และแชมป์ Premier League 3 ครั้งกับ Manchester City
และกับทีม “ปีศาจแดงดำ” AC Milan นั้น เขาพาทีมคว้าแชมป์ Scudetto มาครองได้ในฐานะนักเตะและผู้จัดการทีม ซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก
มาดูสิว่า กุนซือวัย 62 มีความรู้สึกอย่างไรกันบ้างกับการได้แชมป์กับ “ราชันชุดขาว” ในการคัมแบ็กกลับมาสู่สโมสรอีกครั้ง
“เอาเป็นว่าการได้มีโอกาสเป็นผู้จัดการทีมของ Real Madrid ก็เป็นความรู้สึกที่พิเศษสุดของโค้ชทุกคนในโลก นี่คือสโมสรที่มีอะไรที่วิเศษเอามากๆ และการได้เป็นส่วนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการทีม สต๊าฟโค้ช หรือว่านักเตะ ล้วนแต่เป็นเกียรติสูงส่งทั้งสิ้น” Ancelotti กล่าว
ความสำเร็จในฤดูกาลนี้มีที่มาที่ไป กุนซือชาวอิตาเลียนสร้างจุดแข็งให้ทีมด้วยการใช้เวลาไม่นาน กระตุ้นให้ Karim Benzema มีความมั่นใจในตัวเอง ให้อิสระในการเล่นอย่างเต็มที่ และสิ่งหนึ่งที่เติมเต็มให้กับหัวหอกชาวฝรั่งเศสก็คือ การดึง Vinicius Junior จากม้านั่งสำรองมาเป็นตัวจริง กลายเป็นเพลย์เมคเกอร์ที่โดดเด่นมากในทีม และเป็นคู่ขาที่รู้ใจกับสไตล์ของ Benzema มากที่สุด
และเป็นกุนซือวัย 62 ที่เชื่อในพลังของแผงห้องเครื่องของทีม แม้ใครจะวิจารณ์ว่า Luka Modric และ Toni Kroos ได้ผ่านพ้นช่วงสุดยอดของตัวเองไปแล้ว แต่ Ancelotti ไม่คิดเหมือนใคร เขาให้กองกลางวัย Modric พิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่ มอบบทบาทเพลย์เมคเกอร์ให้
ผลที่เกิดขึ้นคืออะไร
ฤดูกาลนี้ จอมทัพทีมชาติโครเอเชียอยู่ในฟอร์มพีกจริงๆ ฝีเท้าและประสบการณ์ของเขาทำให้ทีมทำได้ดีมากในเกม Champions League และดูเหมือนว่าฟอร์มของ Modric จะเด่นกว่าในฤดูกาล 2017/18 ที่คว้ารางวัล Ballon d’Or เสียด้วยซ้ำไป
ไม่มีนักเตะคนใดที่จะเป็นขวัญใจแฟนบอล Real Madrid เท่ากับ Luka Modric อีกแล้ว
อีกคนที่ลืมไม่ได้โดยเด็ดขาดก็คือ Thibaut Courtois นายทวารมือ 1 ที่โชว์ผลงานซูเปอร์เซฟไว้ได้หลายต่อหลายนัด ผู้รักษาประตูวัย 29 ลงเล่นในทุกนัดในเกมลีก และใน 33 นัดที่ลงเล่นเสียไปเพียงแค่ 29 ประตูเท่านั้น
Jorge Valdano อดีตผู้จัดการทีม “ราชันชุดขาว” และผู้อำนวยการด้านฟุตบอลบอกว่า สิ่งที่ Carlo Ancelotti ทำได้เยี่ยมยอดที่สุดก็คือการทำงานอย่างละเอียด เหมือนการต่อจิ๊กซอว์จนสำเร็จ ทำให้ทีมประสานเป็นหนึ่งได้ในเวลาอันรวดเร็ว Modric, Kroos และ Casemiro ทำงานกันได้อย่างลงตัวที่สุด
และแน่นอนว่าความสำเร็จไม่ได้จบลงเพียงแค่นี้อย่างแน่นอน