Tel. 0800-555-555 | 0900-555-555 |

Mane นำขบวนแข้งดังอำลา Premier League

การแข่งขันฟุตบอลลีกของยุโรปฤดูกาล 2021-22 จบลงไปแล้วอย่างสมบูรณ์แบบ หลังผ่านพ้นเกมนัดชิงชนะเลิศศึก Champions League

ซึ่งตำแหน่งแชมป์ตกเป็นของ Real Madrid ที่เอาชนะ Liverpool 1-0 ประตู

สำหรับ “หงส์แดง” จบฤดูกาลด้วยการได้แชมป์ Carabao Cup และ FA Cup และยังได้รองแชมป์ Premier League ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว

หากแต่ Jurgen Klopp ก็ยอมรับว่า “หงส์แดง” คงต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เหมือนกันในฤดูกาลหน้า เพราะในนัดชิง Carabao Cup และ FA Cup คว้าแชมป์มาครองด้วยการดวลจุดโทษ แต่ในเกมการเตะ 120 นาทียิงประตูไม่ได้

แถมในนัดชิง Uefa Champions League บุกยิงแทบตายแต่ไม่ได้ประตูเลย

แต่ความเปลี่ยนแปลงมาเร็วกว่าที่คาด

หลังเสร็จศึกนัดชิง Champions League ได้แค่วันเดียว เป็นที่ยืนยันแล้วว่า Sadio Mane กองหน้าวัย 30 ได้เตรียมอำลาทีม เพื่อไปแสวงหาความท้าทายใหม่ๆ ดูแล้วมีความเป็นไปได้สูงที่กองหน้าทีมชาติเซเนกัลจะเลือกย้ายไปอยู่กับ Bayern Munich

ฤดูกาลนี้ Sadio Mane โดยลงเล่นทุกรายการในฤดูกาลนี้รวม 50 นัด ยิงได้ 23 ประตูกับ 5 แอสซิสต์

และหากนับเฉพาะในพรีเมียร์ลีกลงเล่นไปทั้งหมด 34 นัด ยิงไปได้ 16 ประตู ส่วนในศึกยูฟา แชมเปียนส์ลีก ลงเล่น 12 นัด ยิงได้ 5 ประตู

ถ้าหากนับผลงานนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ “หงส์แดง” เขาลงเล่นไปทั้งหมด 269 นัด ยิงได้ 120 ประตู 48 แอสซิสต์

และช่วยให้ยอดทีมแห่งถิ่นเมอร์ซียไซด์ ได้ทั้งแชมป์ Premier League และ Uefa Champions League

“ผมได้พยายามอย่างเต็มที่ ฝึกซ้อมอย่างหนักทุกวัน พยายามพัฒนาการเล่นของตัวเองอยู่เสมอ พยายามอย่างดีที่สุดที่จะช่วยให้ทีมดีขึ้นมากไปอีก”

คำกล่าวของ Sadio Mane เป็นความจริง และเหล่า “เดอะค็อป” ก็ยอมรับว่าเสียดายที่จะไม่มีดาวยิงผู้ทุ่มเทอยู่กับทีมต่อไปในฤดูกาลหน้า

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่มีเพียงดาวยิงวัย 30 เพียงคนเดียวเท่านั้นที่อำลาทีมเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล มีนักเตะหลายคนอำลาสโมสรเก่าและดูเหมือนว่าจะเลือกที่จะไม่อยู่ใน Premier League ต่อไปเสียด้วยซ้ำ

มีใครกันบ้าง ลองมาไล่เรียงกันดู

Fernandinho (Manchester City)

“เรือใบสีฟ้า” ได้แชมป์ Premier League และคนที่ได้ชูถ้วยแชมป์ก็คือ Fernandinho ซึ่งได้อำลาทีมไปด้วยพร้อมกัน มิดฟิลด์วัย 37 ลงเล่นให้ Manchester City ไปทั้งหมด 383 นัด พาทีมคว้าแชมป์ Premier League 5 สมัย และจะย้ายกลับไปเล่นในบราซิลก่อนแขวนสตั๊ด

Edinson Cavani (Manchester United)

กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยอยู่กับทีม “ผีแดง” ได้ไม่นาน แต่ผลงานทำได้ดีมากเลยทีเดียว ฤดูกาลที่ย้ายมาลงเล่น 39 นัด ยิงได้ 17 ประตู และทำให้ตัดสินใจอยู่กับทีมต่อไปอีกหนึ่งฤดูกาล แต่การเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมและอาการบาดเจ็บทำให้ Cavani ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นในฤดูกาลนี้ การตัดสินใจย้ายทีมจึงนับว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เป็นการจบอย่างเข้าใจ อำลาทีมโดยไม่มีความขัดแย้งต่อกัน

Paul Pogba (Manchester United)

มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสอยู่กับ “ผีแดง” 2 ครั้ง 2 ครา แต่ปัญหาใหญ่ก็คือเขาถูกคาดหวังสูงในความสามารถที่มีอยู่ แถมยังประสบความสำเร็จด้วยดีในทีมชาติฝรั่งเศส แต่เมื่อเล่นให้ Manchester United ผลงานกลับดูดาดๆ และเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีค่าเหนื่อยติดท็อปของสโมสรด้วย

Paul Pogba ลงเล่นให้ “ผีแดง” ทั้งหมด 226 นัด แต่ไม่เคยเข้าใกล้แชมป์ลีกเลย และการย้ายทีมแบบหมดสัญญาก็ดูจะไม่ค่อยมีแฟนบอลคนใดใยดีเขามากนัก ไม่มีใครอยากให้เขาต่อสัญญาอยู่กับทีมต่อไป

Antonio Rudiger (Chelsea)

ปราการหลังทีมชาติเยอรมันลงหลักปักฐานในทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” อย่างมั่นคงก็ในยุคของ Thomas Tuchel แต่ในที่สุดก็ต้องย้ายทีมเพราะไม่สามารถทำความตกลงเรื่องต่อสัญญาใหม่ได้ และการได้ย้ายไปอยู่ Real Madrid ก็นับเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยม

ผลงานของ ที่ Rudiger ช่วยให้ Chelsea ได้ทั้งแชมป์ Champions League, Club World Cup และ FA Cup ก็เป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจเช่นกัน

Divock Origi (Liverpool)

ดาวยิงชาวเบลเยียมอาจไม่ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอนัก แต่ก็เป็นคนทำประตูสำคัญให้กับทีมได้หลายประตู รวมถึงการทำประตูสำคัญให้ “หงส์แดง” ในการเจอกับ Barcelona ในรอบรองชนะเลิศศึก Champions League เมื่อปี 2019 จนทำให้ทีมผ่านเข้าชิงและคว้าแชมป์มาครองได้ในที่สุด

Alexandre Lacazette (Arsenal)

กองหน้าชาวฝรั่งเศสย้ายมาอยู่ “ปืนโต” เมื่อปี 2017 ด้วยค่าตัว 53 ล้านปอนด์ และถือว่าเป็นดาวยิงคนสำคัญของทีมมาตั้งแต่ยุคของ Arsène Wenger และเคยพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ Europa League ในปี 2019 แต่หลังจาก Mikel Arteta เข้ามาคุมทีมและเลือกปลุกปั้นนักเตะหนุ่มแทน ก็ถึงเวลาที่ Lacazette ต้องอำลาทีมเสียที

แต่เชื่อว่าเขาจะยังได้โลดแล่นต่อไปกับสโมสรใดสโมสรหนึ่งในยุโรปอย่างแน่นอน