หากให้กล่าวถึงนักเตะจากทวีปแอฟริกาที่มาประสบความสำเร็จในพรีเมียร์ลีกมากที่สุดเห็นจะไม่มีใครเกินหน้า Didier Drogba ไปได้อย่างแน่นอน
ดาวยิงทีมชาติไอวอรี โคสต์ ถือเป็นดาวยิงในตำนานของทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เคยพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองถึง 4 สมัย แชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก 1 สมัย แชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัย แชมป์ลีก คัพ 3 สมัย
Drogba เล่นให้เชลซีสองสมัย โดยสมัยแรกย้ายจากมาร์กเซย์มาอยู่กับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เมื่อ 20 ก.ค.2004 และย้ายออกจากทีมไปเมื่อกลางปี 2012 โดยย้ายไปเล่นกับเซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว และ กาลาตาซาราย และกลับมาอยู่กับเชลซีอีกครั้งเมื่อ 25 ก.ค.2014
โดยสถิติยิงประตูนับเฉพาะในพรีเมียร์ลีกยิงไปได้ 104 ประตู
และหากนับสถิติในการลงเล่นให้เชลซีทั้งหมดในทุกรายการ ดาวยิงไอวอรี โคสต์ลงเตะไปทั้งหมด 381 นัด ยิงได้ 164 ประตู และทำอีก 87 เปอร์เซ็นต์
ดูเหมือนว่าสถิติดังกล่าวคงจะเป็นเรื่องยากจะหานักเตะคนไหนมาทำลายได้
แต่ตอนนี้ชักไม่แน่เสียแล้ว เพราะ Mohamed Salah กองหน้าทีมชาติอียิปต์ทำสถิติขึ้นมาใกล้เคียงมากขึ้นเรื่อยๆ และหากยังรักษาฟอร์มเช่นนี้ในการเล่นให้ลิเวอร์พูลเชื่อว่า Salah จะกลายเป็นนักเตะจาก “กาฬทวีป” ที่โดดเด่นที่สุดในพรีเมียร์ลีก
“ถ้าหากเขายังเล่นได้อย่างต่อไป ไม่ต้องสงสัยหรอกเขาจะต้องทำลายสถิติทุกอย่างของผมได้อย่างแน่นอน” Drogba กล่าวให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงเบิกบาน แสดงให้เห็นถึงการยอมรับในความสามารถของนักเตะรุ่นน้องอย่างแท้จริง
ฤดูกาลนี้ ดาวยิงชาวอียิปต์ลงเล่นในทุกรายการไปแล้ว 17 เกมและทำไปแล้ว 17 ประตู
ในเกมที่ “หงส์แดง” บุกไปถล่ม “ผีแดง” 5-0 Mohamed Salah กดแฮตทริก และทำให้มีสถิติยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ถึง 107 ประตู แซงหน้า Drogba ไปแล้ว
ดาวยิงชาวอียิปต์ยิงประตูในเกมที่ลิเวอร์พูลต้อนเอาชนะอาร์เซนอล 4-0 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้สถิติยิงประตูในลีกเพิ่มเป็น 108 ประตูเข้าไปแล้ว (2 ประตูเป็นการทำตอนอยู่กับเชลซี และอีก 104 ประตูเป็นการยิงให้ลิเวอร์พูล)
Salah มีสถิติที่น่าทึ่งมากมายในฤดูกาลนี้ เขากลายเป็นผู้เล่นคนแรกในลีกที่บุกทำแฮตทริกที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รวมถึงทำสถิติยิงประตู 10 นัดติดต่อกัน (รวม 14 ประตู)
หากนับเฉพาะผลงานในทีมลิเวอร์พูลนั้น เขาลงเล่นไปแล้วในทุกรายการรวม 220 นัด ยิงไปได้ทั้งหมด 142 ประตู และ 53 แอสซิสต์
ส่วนช่วงเป็นดาวอับแสงกับเชลซีนั้น Salah ลงเล่นไปทั้งหมด 19 นัด ยิงไป 2 ประตูและ 4 แอสซิสต์
ตอนนี้เขาเป็นดาวยิงอันดับ 1 ของทวีปแอฟริกาในพรีเมียร์ลีกด้วยผลงานยิง 108 ประตู ส่วน Drogba ตามมาเป็นอันดับ 2 คือ 104 ประตู
และอันดับ 2 ของดาวยิงไอวอรี โคสต์ ก็เริ่มง่อนแง่นเสียแล้วด้วย เพราะตอนนี้ Sadio Mane หัวหอกชาวเซเนกัล ก็ยิงในพรีเมียร์ลีกรวม 102 ประตู ห่างจาก Drogba แค่สองประตูเท่านั้น
Mane กลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้งในฤดูกาลนี้ และอาจเป็นคู่แข่งสำคัญของเพื่อนร่วมทีมอย่าง Salah ในการเป็นยอดดาวยิงของทวีปแอฟริกาในศึกพรีเมียร์ลีก
สถิติอีกอย่างที่ Drogba ครองอยู่ก็คือเป็นนักเตะเบอร์ 1 จากแอฟริกาที่ทำแอสซิสต์มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ด้วยสถิติทำไปทั้งหมด 55 แอสซิสต์
ที่น่าเสียวไส้ก็คือคนที่ทำผลงานไล่ตามเขามาก็คือ Riyad Mahrez ปีกทีมชาติแอลจีเรียของ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ ที่สถิติทำแอสซิสต์ไปแล้ว 47 แอสซิสต์ และมีเวลาในการเล่นอีกหลายปีมากเพียงพอที่จะทำลายสถิติเดิมของดาวยิงชาวไอวอรี โคสต์ได้อีก
ส่วนอันดับ 3 ของจอมแอสซิสต์ก็ไม่ใช่ใคร Mohamed Salah นั่นเอง ด้วยผลงานทำไป 41 แอสซิสต์
“แต่ผมไม่อิจฉาเขาหรอกนะ และยินดีกับเขาด้วยจริงใจ Mohamed Salah คือดาวยิงพรสวรรค์ และเขาเป็นคนที่ติดดินและสุภาพมาก สิ่งที่เขาหิวกระหายมีอยู่อย่างเดียวก็คือการได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อแสดงความสามารถให้ทุกคนได้เห็น” อดีตดาวยิงในตำนานของเชลซีกล่าวยอมรับ
Mohamed Salah จะใช้ความสามารถที่มีอยู่เพื่อยืนยันว่าเขาคือตำนานบทใหม่ของนักเตะจากทวีปแอฟริกาได้แน่นอน